ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการตรวจสอบคุณภาพ "ยากลูโคซามีน" หรือยารักษาอาการข้อเสื่อม ทั้งรูปแบบยาผงละลายน้ำ ยาแคปซูล และยาเม็ด ที่ผลิตในประเทศและที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่แนะนำผู้ป่วยข้อเสื่อมพิจารณาเลือกใช้ยี่ห้อและราคาตามความเหมาะสม

ทั้งนี้  นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่าข้อมูลการขึ้นทะเบียนตำรับยากลูโคซามีน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่ามีจำนวน 131 ตำรับ จาก 44 บริษัท และมีหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบยาผงละลายน้ำ ยาแคปซูล และยาเม็ด ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2554 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงร่วมมือกับ อย.ดำเนินการสุ่มตรวจวิเคราะห์คุณภาพยากลูโคซามีนจากผู้ผลิตและโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพยาให้แก่ประชาชน จำนวน 90 ตัวอย่าง ทั้งประเภทยาเม็ด ยาแคปซูล และยาผงสำหรับละลายน้ำ โดยพบว่ายาเม็ดขนาดความแรง 500, 750 และ 1,000 มิลลิกรัมต่อเม็ด จำนวน 8 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์ทุกตัวอย่าง ยาแคปซูลขนาดความแรง 250 และ 500 มิลลิกรัมต่อแคปซูล จำนวน 47 ตัวอย่าง พบว่าผิดมาตรฐาน 1 ตัวอย่าง ในหัวข้อความแตกต่างจากน้ำหนักเฉลี่ย ซึ่งเป็นการทดสอบน้ำหนักยาแต่ละแคปซูลที่สุ่มตรวจว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนยาผงสำหรับละลายน้ำขนาด 1,500 มิลลิกรัมต่อซอง จำนวน 35 ตัวอย่าง พบผิดมาตรฐานเรื่องปริมาณตัวยาสำคัญต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1 ตัวอย่าง

นพ.นิพนธ์กล่าวอีกว่า จากการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าว พบว่าส่วนใหญ่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับตัวอย่างที่พบผิดมาตรฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้แจ้งให้ อย.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปแล้ว

"อย่างไรก็ดี กลูโคซามีน เป็นยาที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาจัดให้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประชาชนสามารถเลือกซื้อกินได้เอง สำหรับประเทศไทยอนุญาตให้ขึ้น ทะเบียนเฉพาะเป็นยาเท่านั้น ดังนั้น ผู้ป่วย โรคข้อเสื่อมที่ต้องการใช้ยากลูโคซามีนเพื่อเป็นทางเลือกในการบรรเทาอาการ ควรพิจารณาเลือกใช้ยี่ห้อและราคาตามความเหมาะสม เนื่องจากกลูโคซามีนที่จำหน่ายในท้องตลาดมีความแตกต่างของราคามาก" นพ.นิพนธ์กล่าว

ทางด้าน ภญ.นิดาพรรณ เรืองฤทธินนท์ ผู้อำนวยการสำนักยาและวัตถุเสพติด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลไกการออกฤทธิ์ของยากลูโคซามีนยังไม่ทราบชัดเจน และยังเป็นที่ถกเถียงทางการแพทย์เกี่ยวกับประสิทธิผลของการใช้รักษาโรคข้อเสื่อม ซึ่งในต่างประเทศมีการขึ้นทะเบียนกลูโคซามีนทั้งที่เป็นยาและหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สำหรับประเทศไทยอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะเป็นยาเท่านั้น และที่ผ่านมา พบว่ายากลูโคซามีนเป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีมูลค่าการเบิกจ่ายสูงทำให้เป็นประเด็นในเรื่องของประสิทธิผลและความคุ้มค่าของการใช้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มี การเจรจาต่อรองราคายาและจัดทำราคากลางเพื่อควบคุมการเบิกจ่ายยาให้เกิดการใช้ยาที่เหมาะสมและคุ้มค่า

"สำหรับยากลูโคซามีนนั้น ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการจัดทำ เอกสารสรุปผลวิเคราะห์ทั้งหมดเผยแพร่ให้เครือข่ายสาธารณสุขภาครัฐทราบ ทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทางเว็บไซต์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และบรรจุลงในหนังสือ "รายชื่อผลิตภัณฑ์ยา คุณภาพและผู้ผลิต" หรือ "GREEN BOOK" เพื่อให้โรงพยาบาลได้นำข้อมูลไปใช้เป็นแนวทางในการจัดซื้อยาเข้าโรงพยาบาลแล้ว" ภญ.นิดาพรรณกล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 13 มีนาคม 2556