ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

"หมอชลน่าน" ย้ำปรับบทบาทตระกูล ส. อาจมีแผล แต่ต้องทำให้ระบบถูกต้อง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุขเปิดเผยว่า เหตุผลที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข จะปรับบทบาทองค์กรอิสระในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มตระกูล ส. เพราะที่ผ่านมาบริหารจัดการไม่ตรงตามเจตนารมณ์ไม่ตรงกับกฎหมายที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกที่ให้หน้าที่กำกับดูแลมาตรฐานเท่านั้น

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า กลุ่มตระกูล ส.ไม่ได้มีบทบาทในการดูแลงานทุกเรื่องจึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์องค์กรตั้งแต่แรก เพื่อแก้ปัญหาภาพรวมของระบบสาธารณสุข

"แม้การจัดการจะมีบาดแผลบ้างแต่ก็ต้องทำ เพื่อให้ระบบเดินไปถูกทาง"นพ.ชลน่าน กล่าว

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ได้ยกตัวอย่างการทำงานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ที่ต้องขออนุมัติงบผ่านกระทรวงสาธารณสุขเพื่อจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน หรือการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งที่เจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นคนของกระทรวงสาธารณสุข จึงถือเป็นการอนุมัติงบซ้ำซ้อน และทำให้ สธ. ไม่มีอำนาจจัดการอย่างแท้จริง

ขณะที่สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) ก็ทำงานภายใต้ พ.ร.บ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งค่อนข้างเก่า จึงควรมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้เพื่อให้แต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการองค์กรและงบประมาณมากขึ้น

ขณะที่ พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าตระกูล ส. เป็นองค์กรอิสระ อยู่ภายใต้ สธ.อยู่แล้ว ซึ่งก็ซ้ำซ้อนกับภาระหน้าที่เดิมของสธ. แต่ต้องไม่ลืมว่าโครงสร้างของทุกองค์การ ส. มีรัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปล้มอะไร

"การปล่อยให้มีหลายองค์กรมันเฝือเกินไป จึงมีความคิดจับมารวมกัน จากเดิมที่ประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆ 10 ครั้งก็เหลือเพียงแค่ครั้งเดียว สุดท้ายประโยชน์ก็ตกกับประชาชนอยู่ดี" พล.อ.อำนวย ระบุ

นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ได้นำหนังสือร้องเรียนของชมรมแพทย์ชนบทให้เปลี่ยนตัว รมว.สาธารณสุข ยื่นให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาแล้ว ซึ่งนายกฯ ก็ได้สอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้ติดใจอะไร

ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การกระทำลักษณะนี้คือการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่สธ.ละเลยกระบวนการการมีส่วนร่วม

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 15 มีนาคม 2556