ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รมว.สธ.เตรียมออกประกาศกระทรวงฯ สร้างระบบประกันสุขภาพให้ต่างด้าว 4 กลุ่มที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งประเภทใช้แรงงาน ผู้ติดตามแรงงาน ต่างชาติที่ข้ามมารักษาที่ รพ.ชายแดน และนักท่องเที่ยวที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพ พร้อมนำเข้าที่ประชุม ครม.ในเร็วๆ นี้

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สธ. ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการในการจัดบริการสุขภาพแก่กลุ่มประชากรต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยตามมติของ ครม. ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดทำร่างประกาศกระทรวงฯ เรื่องการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพคนต่างด้าว โดยมีเป้าหมาย 4กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.กลุ่มแรงงานสัญชาติพม่า ลาว กัมพูชา2.กลุ่มครอบครัวที่ติดตามมาพร้อมกับผู้ใช้แรงงาน 3.ต่างด้าวที่ข้ามมารักษาพยาบาลที่ รพ.ตามแนวชายแดน และ 4.ต่างด้าวที่เข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีประกันสุขภาพหรือยังไม่มีก็ได้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยมีหลักประกันสุขภาพ 100% สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่าย ทั้งการรักษา การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพ และลดปัญหาเด็กไร้สัญชาติในประเทศด้วย ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุม ครม.ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

โดยเรื่องที่เร่งดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็วขณะนี้มี 4 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.การพัฒนาศูนย์ข้อมูลด้านสุขภาพประชากรต่างด้าวเชื่อมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อสามารถรับรู้และเข้าถึงข้อมูลของแรงงานคนนั้นๆ ได้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น 2.การจัดบริการสุขภาพแก่กลุ่มแรงงานต่างด้าว 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งคาดว่าจะมีผู้รอขึ้นทะเบียนพิสูจน์สัญชาติประมาณ 1 ล้านคน สธ.จะทำการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคด้วย โดยการคุ้มครองสุขภาพจะมีผลตั้งแต่วันที่ทำประกันจนถึง 90 วันก่อนที่ระบบประกันสังคมจะเริ่มมีผลการคุ้มครอง และให้บริการกลุ่มที่อยู่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม เช่น ผู้ที่ทำงานในกิจการประมง เกษตรและปศุสัตว์ งานก่อสร้าง ผู้รับใช้ในบ้าน และกิจการอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจสุขภาพและซื้อหลักประกันสุขภาพอายุคุ้มครองเป็นเวลา 1 ปีด้วย

3.การวางรูปแบบการทำหลักประกันสุขภาพให้โรงพยาบาลที่อยู่ตามแนวชายแดน เพื่อส่งเสริมให้ต่างด้าวที่เดินทางข้ามแดนมาใช้บริการรักษาพยาบาลซื้อหลักประกันสุขภาพทุกคน และ 4.หารูปแบบการประกันสุขภาพกลุ่มที่เข้าประเทศโดยถูกกฎหมาย เช่น ต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย แต่ไม่มีหลักประกันสุขภาพ ได้มอบหมายให้ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัด สธ. เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางระบบให้สมบูรณ์แบบโดยเร็ว

ด้าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัด สธ. กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการด้านสาธารณสุขในประชากรต่างด้าว ซึ่งมีหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งในและนอกกระทรวงฯ ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการและแนวทางการตรวจสุขภาพ และประกันสุขภาพประชากรต่างด้าวของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2556 ดังนี้ 1.กลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะเรียกเก็บค่าบริการตรวจสุขภาพ เช่น เอ็กซเรย์ปอด ตรวจเลือด 600 บาท และค่ารักษาพยาบาล 3 เดือนแรกที่กองทุนประกันสังคมยังไม่ครอบคลุม และค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

2.กลุ่มแรงงานที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและผู้ติดตามเรียกเก็บรายละ 1,900 บาท แบ่งเป็นค่าตรวจสุขภาพ 600 บาท ค่าประกันสุขภาพ 1 ปี รายละ 1,300 บาท ซึ่งประกันสุขภาพทุกแบบจะคุ้มครองทันทีนับตั้งแต่วันที่ซื้อประกัน สำหรับต่างด้าวที่คลอดบุตรในประเทศไทย เด็กทารกที่เกิดมาจะต้องทำบัตรประกันสุขภาพและมีสมุดบันทึกสุขภาพประจำตัวแต่ละคนด้วย เพื่อให้ได้รับการส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่องและครบถ้วนตามเกณฑ์เช่นเดียวกับเด็กไทย เช่น การรับวัคซีนป้องกันโรคตามช่วงอายุ เป็นต้น โดย สธ.จะเร่งดำเนินการตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพต่างด้าวให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน หลังจากที่ ครม.มีมติขยายการตรวจสุขภาพเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2555 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ สถานการณ์แรงงานต่างชาติ ขณะนี้คาดว่าจะมีกลุ่มคนต่างด้าวพร้อมครอบครัวและบุตรอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งที่ขึ้นทะเบียนใช้แรงงานในและนอกระบบประกันสังคมรวม 2-3 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นแรงงานผู้หญิงประมาณ 1-1.6 ล้านคน ผลการตรวจสุขภาพของ สธ.ในปี 2554 พบต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว กัมพูชา เป็นโรคติดต่อที่ต้องติดตามรักษาให้หายขาด เช่น มาลาเรีย วัณโรค ประมาณร้อยละ 1 และพบหญิงต่างด้าวที่เข้ามาใช้แรงงานตั้งครรภ์จำนวน 18,355 คน คิดเป็นร้อยละ 1.47-1.75 ของหญิงต่างด้าวทั้งหมด หากไม่มีระบบควบคุมใดๆ คาดว่าจะมีต่างด้าวตั้งครรภ์ปีละประมาณ 16,000-24,000 คน คลอดปีละประมาณ 10,000-20,000 คน และจะมีเด็กไร้สัญชาติสะสมในประเทศไทยประมาณ 4-5 แสนคน