ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

เครือข่ายแพทย์ดีเด่นศิริราชออกแถลง การณ์ไล่ "หมอประดิษฐ" ชี้ทำให้ระบบสาธารณสุขไทยจะตกเหว ระบุเป็นหมอนักธุรกิจ ตัวแทนนักการเมือง ประวัติไม่เคยทำงานใช้ทุนต่างจังหวัด ไม่เคยลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แถมส่งพวกพ้องมาเป็นผู้บริหารระดับสูง ครอบงำองค์กร "ตระกูล ส." กลั่นแกล้ง อภ.ให้อ่อนเปลี้ย เพื่อเปิดช่องธุรกิจยาข้ามชาติ เรียกร้องให้กลุ่มแพทย์ พยาบาล รวมพลังเพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขชาติ

หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกระเบียบการจ่ายเงินค่าตอบแทนการทำงานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์จากวิธีการเหมาจ่ายอย่างเดียว มาเป็นการจ่ายด้วยวิธีการดังกล่าวร่วมกับการจ่ายตามผลการปฏิบัติงาน หรือพีโฟว์พี ก็ได้รับการต่อต้านคัดค้านจากกลุ่มแพทย์ชนบท ซึ่งรวมตัวกันออกมาชุมนุมขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมทั้งแต่งชุดดำ สวมปลอกแขนดำ เพื่อต่อต้านการบริหารงาน สธ.ภายใต้การกำกับของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. เครือข่ายแพทย์ดีเด่นศิริราชพยาบาล นำโดย นพ.อภิสิทธ์ ธำรงวรางกูล รพ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, นพ.อดิสร วัฒนวงษ์สิงห์ รพ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด, นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ รพ.อุ้มผาง จ.ตาก, นพ.รอซาลี ปัตยบุตร รพ.รามัน จ.ยะลา, นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช, นพ.เฉิดพันธ์ ภัทรพงศ์สินธู์ รพ.หนองบัวระเหว, นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ รพ.สมเด็จนาทวี จ.สงขลา, นพ.วิชัย อัศวภาคย์ รพ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น, นพ.แสงชัย พงษ์พิชญ์พิทักษ์ รพ.สูงเม่น จ.แพร่, นพ.ภักดี สืบนุการณ์ รพ.ด่านซ้าย จ.เลย และ นพ.สมศักดิ์ โสฬลลิขิต รพ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่องระบบสาธารณสุขไทยจะตกเหวถ้ามีหมอประดิษฐเป็น รมว.สธ.

โดยในแถลงการณ์ระบุว่า สธ.มีพัฒนาการและผลงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จากการทุ่มเทแรงกายและใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ในจังหวัดและในกระทรวง นำโดยผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ มีคุณธรรม และยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และได้สร้างระบบบริการสุขภาพ สร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และสร้างหน่วยงานหลากหลายเพื่อช่วยกันพัฒนา ปฏิรูประบบสุขภาพไทย รวมทั้งสร้างระบบเครือข่ายตรวจสอบ ป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบของผู้มีอำนาจ จนเป็นตัวอย่าง เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

แต่ขณะนี้ภายใต้การครอบงำของกลุ่มธุรกิจการเมือง มีหมอนักธุรกิจที่ไม่เป็นที่ยอมรับของหมอ ไม่เคยออกไปใช้ทุนยังต่างจังหวัด ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารภาครัฐ ไม่รู้จักปัญหาสาธารณสุข ความทุกข์ของประชาชนในชนบท ไม่เคยเข้าพื้นที่จริงของ 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ใช้ความใกล้ชิดจากที่เคยทำธุรกิจร่วมกับผู้นำรัฐบาล รับจ๊อบทางการเมืองเข้าแยกสลาย สร้างความแตกร้าวในแวดวงสาธารณสุข ด้วยการส่งนักการเมืองของพรรค นักวิชาการพวกพ้อง และนักธุรกิจเข้ายึดครองการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของ สธ. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักวิจัยระบบสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ เพื่อออกนโยบายแยกสลายให้หน่วยงานต่างๆ อ่อนแอลง วางแผนล้มระบบหลักประกันสุขภาพทำให้เป็นระบบอนาถาสงเคราะห์ผู้ยากไร้

แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ยังมีการดำเนินการแอบสั่ง รพ.ใหญ่ในเมืองให้จัดม็อบ รพ.ละไม่น้อยกว่า 1 คันรถบัส เพื่อหนุนอำนาจของตนเอง และใช้ม็อบของ รพ.ใหญ่ในเมืองชนการเคลื่อนไหวของ รพ.ในชนบท ปลุกพยาบาลให้ขัดแย้งกับแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกรที่ทำงานในชนบท ทำให้ระบบบริการผู้ป่วยในพื้นที่ปั่นป่วนขัดแย้งอย่างรุนแรงไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ผู้ป่วยใน รพ.ชุมชนไม่สามารถส่งต่อไปยัง รพ.ใหญ่ในเมืองได้ ออกระเบียบทางการเงินที่บีบบังคับให้แพทย์และบุคลากรอื่นทิ้ง รพ.ชุมชน เข้าเมืองเพื่อทดแทนกำลังคนของ รพ.ใหญ่ในเมืองที่จะขาดแคลนจากการย้ายไป รพ.เอกชนรองรับการเปิดตลาด  Medical Hub ที่กลุ่มธุรกิจทางการแพทย์และการเมืองได้เข้ายึดกุมตลาดไว้ล่วงหน้าแล้ว

และท้ายที่สุดอาศัยอำนาจรัฐมนตรี ปลุกกระแสสร้างความเสียหาย ให้ข่าวอันเป็นเท็จ ทำลายภาพพจน์ขององค์การเภสัชกรรมของรัฐให้อ่อนเปลี้ย ไม่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ เปิดทางเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจยาข้ามชาติเข้ายึดครองตลาดยาไทยนับแสนล้านบาท ทั้งหมดนี้เพราะ รมว.หมอนักธุรกิจที่รับจ๊อบทางการเมืองมาทำลายองค์กร ทำลายระบบ และทำลายเครือข่ายตรวจสอบการทุจริตทั้งทางตรงและทุจริตเชิงนโยบายให้อ่อนแอลง เพื่อเปิดทางให้ออกนโยบายและจัดระบบที่เอื้อกับธุรกิจทางการเมืองและเอกชนได้ง่ายขึ้นในอนาคต

"สถานการณ์ความเสี่ยงตกเหวของระบบสาธารณสุขไทยในขณะนี้ เกิดขึ้นจากความอ่อนแอของหน่วยงานสาธารณสุขที่ถูกแยกสลายและยึดครองจากผู้มีอำนาจทางการเมือง และเกิดจากการใช้อำนาจของ รมว.หมอนักธุรกิจที่รับจ๊อบทางการเมืองเพื่อเอื้อธุรกิจเอกชนและทุนข้ามชาติ ร่วมกับฝ่ายประจำบางคนที่สนองการเมืองโดยไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ขอเพียงให้ตนเองมีตำแหน่งและอยู่ในตำแหน่งได้ก็พอ" แถลงการณ์ระบุ

เครือข่ายแพทย์ดีเด่นศิริราชสรุปตอนท้ายว่า ดังนั้นกลุ่มหมอที่ทำงานอยู่ในชนบทมีความเป็นห่วงและรับไม่ได้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ จึงต้องรวมตัวเป็นเครือข่าย เพื่อฟ้องต่อสังคม เรียกร้องต่อชาวสาธารณสุขให้เป็นเอกภาพ ลุกขึ้นปกป้องระบบ ปกป้องประโยชน์และสุขภาพของประชาชน และเรียกร้องให้รัฐมนตรีสาธารณสุขออกไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 เมษายน 2556