ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

วันนี้ (25 เมษายน 2556) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการซื้อเครื่องตรวจวัดน้ำตาลในกระแสเลือดว่า ตามที่มีข่าวว่าในบางพื้นที่ได้มีการดำเนินการจัดซื้อไปแล้วนั้น การจะบอกว่ามีการทุจริตหรือไม่ต้องตรวจสอบกันด้วยหลักฐาน รวมทั้งต้องตรวจสอบว่ามีการซื้อในราคาแพงเกินไปหรือไม่สมราคาหรือไม่ เรื่องนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 โดยคณะกรรมการในพื้นที่ได้พิจารณาความเหมาะสมในการจัดซื้อ และมีการดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบพัสดุ

สิ่งที่เน้นคือจะต้องมีการพิสูจน์ในเชิงนโยบายก่อน เพราะว่าตอนนี้เป็นแนวความคิดที่ว่าถ้าซื้อเครื่องแล้วใช้แถบตรวจน้ำตาลจะแพงกว่าการที่ซื้อแถบตรวจน้ำตาลแล้วแถมเครื่อง ต้องมีการตรวจและพิสูจน์อย่างนี้ได้ก่อนยกตัวอย่าง เช่น ถ้าซื้อเครื่อง 11,400 บาท แล้วขายแถบตรวจฯราคา 5 บาทกับซื้อแถบตรวจราคา 6 บาทแต่แถมเครื่องฟรีราคาแถบตรวจฯที่แพงกว่า 1 บาท ใช้ไป 1,400 ครั้งก็จะคุ้มทุนแล้ว ดังนั้นต้องมาพิสูจน์ว่าอะไรแพงกว่า

จึงต้องให้โอกาสผู้ที่ทำงานว่ามีการตัดสินใจเชิงนโยบายอย่างไร บางเรื่องมีบริบทของความจำเป็นอยู่แล้วเพราะบางพื้นที่อาจจะไม่มีเครื่องตรวจก็ต้องการซื้อเครื่อง หรือบางพื้นที่อาจมีแถบตรวจฯอยู่แล้วต้องการเครื่องใหม่เนื่องจากเครื่องเก่าพัง ซึ่งจะต้องมีการคุยในรายละเอียดว่าเมื่อให้เครื่องฟรีมาแล้วหากเครื่องพังใครจะรับผิดชอบ หรือว่าจะต้องกลับไปซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้นจึงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องดู จึงควรให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

 “หากจะเชิญไปให้ สตง. ตรวจสอบตนเองคิดว่ายังไม่พบความผิดปกติอะไรเลย ซึ่งจะทำให้สตง. มีปัญหาในเรื่องนี้ จะต้องพิสูจน์ในหลักการที่ได้บอกไปแล้ว โดยมีคำถามที่ต้องพิสูจน์เมื่อพิสูจน์ออกมาแล้วจะพบว่าการตัดสินใจในเชิงนโยบายผิดอย่างไร หากถามถึงเรื่องทุจริตจะต้องแปลความหมายให้ชัดเจนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ผลประโยชน์อย่างไร และเห็นด้วยกับท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เสนอให้ยุติการซื้อและให้มีการพิสูจน์ก่อน”นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ได้ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแนวคิดว่าถ้าซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลแล้วซื้อแถบตรวจฯจะแพงกว่าโดยรวมถ้าเราซื้อแถบตรวจฯอย่างเดียวแล้วแถมเครื่องเป็นเชิงความคิดเพราะยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ถ้ามีการซื้อเครื่องราคาแพงกว่าปกติ เช่นซื้อเครื่องจากบริษัทเอแล้วแพงว่าที่คนอื่นซื้อจะต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งตนสนใจรูปแบบนี้หากออกมาดีอาจจะไปดำเนินการต่อกับบริษัทเครื่องเอ๊กซ์เรย์ไม่ต้องซื้อเครื่อง ซื้อเฉพาะฟิล์มแล้วแถมเครื่องทำสัญญาผูกพันกัน 10 ปี แต่ต้องควบคุมราคาแถบตรวจน้ำตาล ราคาฟิล์ม ถ้าไม่ได้ควบคุมราคาไว้แล้วขึ้นราคาภายหลังจะทำอย่างไร มีมาตรการหลายอย่างที่ได้ให้ท่านปลัดกระทรวงไปดูให้รอบคอบ

สำหรับการกล่าวหาว่าทุจริตนั้น ตนเองยังไม่เห็นว่ามีการทุจริต ซึ่งทางแพทย์ชนบทอาจจะไม่เห็นด้วยในเชิงความคิดเท่านั้นไม่ได้มุ่งหวังว่าจะมีการทุจริตแต่อย่างไร ทั้งนี้ การซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลให้ อสม.นั้นได้รับรายงานจากอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่า มีแนวคิดในการให้อสม.เข้าไปดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าเครื่องตรวจน้ำตาลเป็นเครื่องที่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ได้ ไม่ได้มีการระบุว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้เฉพาะแพทย์ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา เพราะซื้อมาให้ อสม.เข้าไปตรวจระดับน้ำตาลผู้ป่วยเบาหวานซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่อสม.ต้องดูแลและเห็นว่าจำเป็น ซึ่งวิชาชีพไม่ได้ขัดข้อง