เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่า วันที่ 7 พฤษภาคม นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะเดินทางมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในส่วนของการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไม่เกี่ยวข้องกับกรณีการจัดซื้อวัตถุดิบยาพาราเซตามอลที่ดีเอสไอสรุปการสืบสวนข้อเท็จจริงส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ทั้งนี้หลังจากพนักงานสอบสวนได้ข้อมูลจาก นพ.วิทิต ยังคงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของ นพ.วิทิต กล่าวว่า ขณะนี้ นพ.วิทิตได้เตรียมพร้อมเข้าชี้แจงต่อดีเอสไอตามกำหนดการนัดหมายทุกประการ โดยการเข้าชี้แจงครั้งนี้จะเป็นกรณีโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่ง นพ.วิทิตไม่ได้กังวลอะไรเพราะเป็นบุคคลที่ทำงานตามปกติมีข้อมูลหลักฐานตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และการที่ดีเอสไอเรียกเข้าชี้แจงและให้โอกาสชี้แจงจริงๆ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ส่วนจะพิจารณาส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.เหมือนกรณียาพาราฯหรือไม่ ถือเป็นดุลพินิจ
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทกล่าวว่า ขณะนี้ อภ.กำลังประสบวิกฤตหนัก เพราะผู้บริหารทุกระดับไม่สามารถบริหารงานได้ อย่างอิสระ เนื่องจากขณะนี้ชมรมได้รับข้อมูลว่า มีอำนาจมากกว่าประธานบอร์ด อภ.ได้สั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเดินของเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านบาท ที่ อภ.เตรียมเบิกส่งให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ที่ได้ซื้อยาในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามคำแนะนำของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยได้สั่งให้ส่งเข้าส่วนกลางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แทนหรือแม้แต่มีกระแสข่าวว่ามีคนสนิทฝ่ายการเมืองไปยุ่งกับงบวิจัยของ สวรส.ประมาณ 6 ล้านบาท เพื่อทำเอกสารวิจัยปฏิรูปโครงสร้าง สธ. ซึ่งเนื้อหาไม่มีอะไรใหม่ ส่วนใหญ่ซ้ำกับที่เคยทำกันแล้ว
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า หากมีหลักฐานควรนำออกมา หรือควรส่งเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรมาเลยดีกว่า ว่าใครทำอะไรไม่ถูกต้องอย่างไร เพราะการพูดลอยๆ ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ หากพร้อมนำหลักฐานเข้ามา ก็พร้อมจะสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 7 พฤษภาคม 2556
