ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย เผยผลสำรวจสภาวะทันตสุขภาพปี 2555 ชี้ ภาคใต้ประสบปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุสูงสุด จับมือหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สปสช. และศอ.บต.ภาคใต้

ร่วมคืนรอยยิ้มและสุขภาพที่ดีแก่ผู้สูงอายุ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งเป้ามอบฟันเทียมพระราชทาน 3,000 คน พร้อมจัดประชุมระดับสมองทันตบุคลากรในพื้นที่ เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปาก ช่วยลดการสูญเสียฟันให้กับผู้สูงอายุ

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับวิชาชีพทันตกรรมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินงานตามโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2548 โดยแต่ละปีจะมีผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากได้รับบริการใส่ฟันเทียมเพื่อการเคี้ยวอาหารทั่วประเทศ ปีละประมาณ 35,000 คน และจากการติดตามประเมินผลหลังการจัดบริการในปี 2550 พบว่า โครงการเป็นที่ยอมรับของสังคม และผู้สูงอายุร้อยละ 97 ที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจ เนื่องจากภายหลังได้รับฟันเทียมพระราชทาน สุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุดีขึ้นอย่างชัดเจนทั้งด้านกายภาพ อารมณ์ สังคม ทำให้โครงการได้รับสนับสนุนให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

นายพสิษฐ์ กล่าวต่อไปถึงผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพครั้งที่ 7 ในปี 2555 ซึ่งพบว่า ผู้สูงอายุไทยมีการสูญเสียฟันทั้งปากร้อยละ 7.2 ต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปากร้อยละ 2.5 หรือประมาณ 236,000 คน แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค ทำให้พบว่า ภาคใต้มีความต้องการบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากสูงสุดคือร้อยละ 4.1 หรือ ประมาณการตามจำนวนประชากรสูงอายุใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คิดเป็นจำนวน 22,750 คนซึ่งการจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากการจัดบริการให้ครอบคลุมและมีคุณภาพ จำเป็นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ของทันตบุคลากร ตลอดจนยังขึ้นอยู่กับจำนวนทันตแพทย์ผู้ให้บริการในพื้นที่ และความสามารถในการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุที่ต้องเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาลหลายครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาในการเดินทางมารับบริการ กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุภาคใต้เป็นกรณีพิเศษเพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟันในกลุ่มผู้สูงอายุใน 4จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้สามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น ลดความทุกข์ทรมานจากการไม่มีฟันบดเคี้ยวอาหาร อันเป็นช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทยอีกทางหนึ่ง

“กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป้าหมายในการจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ปีละ 3,000 คน การรณรงค์ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดบริการ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจาก กรมอนามัย หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้งนี้ นอกจากจะจัดให้มีพิธีมอบฟันเทียมพระราชทานแล้ว กรมอนามัยยังจัดให้มีการประชุมสัมมนาขยายเครือข่ายฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และขยายเครือข่ายด้านการส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปากให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ช่วยลดการสูญเสียฟัน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทั้งในหน่วยบริการระดับตำบลและโดยแกนนำภาคประชาชนตามบริบทของพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีฟันใช้เคี้ยวอาหารได้อย่างเหมาะสมเพิ่มขึ้น มีภาวะโภชนาการ รวมทั้งสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด

ที่มา: http://www.thanonline.com