ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วัยรุ่นญี่ปุ่น-สหรัฐ ฮิตแฟชั่น "เลียลูกตา" เชื้อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ แพทย์ชี้เสี่ยงเยื่อบุนัยน์ตาอักเสบ ติดเชื้อเอชไอวี แนะคนไทยอย่าลอกเลียนแบบ

กระแสกลุ่มวัยรุ่นในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา แสดงความรักพิสดารด้วยการ "เลียลูกตา" (Eyeball licking, Oculolinctus, Worming) เพราะเชื่อว่าเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศนั้น ล่าสุดแพทย์ได้ออกมาแสดงความห่วงใยว่าพฤติกรรมดังกล่าวเสี่ยงต่อการทำให้เยื่อบุนัยน์ตาติดเชื้ออย่างรุนแรงจนถึงขั้นตาบอด และยังเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีด้วย

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่าพฤติกรรมนี้น่ากลัวมาก และคนไทยไม่ควรลอกเลียนแบบ เนื่องจากน้ำลายกับน้ำตาเป็นคนละชนิดกัน

"การเลียลูกตาจะทำให้น้ำลายที่มีเชื้อแบคทีเรียเข้าไปปะปน จะทำให้เกิดอาการตาอักเสบ และหากเชื้อแบคทีเรียเป็นชนิดที่มีความรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้ ที่สำคัญลิ้นมีความสากอาจครูดกระจกตา ทำให้เกิดแผลได้ ดังนั้นเชื้อโรคต่างสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย" นพ.พรเทพกล่าว

ด้าน นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า หากผู้ที่ทำการเลียลูกตามีโรคประจำตัวก็มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อผ่านลูกตาได้ โดยเฉพาะหากนัยน์ตาขาวมีแผลอยู่แล้วโอกาสเสี่ยงรับเชื้อจะยิ่งสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคปอดอักเสบ หรือแม้แต่ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หากไปเลียนัยน์ตาที่มีแผล แม้เพียงเล็กน้อย บุคคลนั้นๆ ก็อาจได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีรับเชื้อจากน้ำลายต้องอยู่ที่ปริมาณการรับเชื้อหรือไม่ นพ.ฐาปนวงศ์กล่าวว่า จริงอยู่ว่าการรับเชื้อจะขึ้นกับปริมาณของน้ำลาย แต่อย่าประมาท เพราะหากนัยน์ตาเรามีแผลอยู่แล้ว เพียงเล็กน้อยก็สามารถรับเชื้อผ่านทางน้ำลายของคนคนนั้นได้ ดังนั้นคนไทยจึงไม่ควรลอกเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว

ขณะที่ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสังคมไทย และความเชื่อที่ว่าเลียลูกตาทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศนั้น ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าเป็นเรื่องของรสนิยมที่ต้องการความตื่นเต้นเท่านั้น แต่ไม่เกี่ยวกับว่ามีอาการทางจิตร่วมหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่คนโรคจิต แต่เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคลที่ต้องการความแตกต่างเท่านั้น

 ที่มา--มติชน ฉบับวันที่ 18 มิ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--

เรื่องที่เกี่ยวข้อง