ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.กทม.เผยเข้าใจปัญหาคลินิกอบอุ่น โดยเฉพาะคลินิกอบอุ่นที่มีเครือข่าย 1-2 แห่ง เหตุต้องแบกรับความเสี่ยง แจงปี 57 เตรียมเพิ่มงบผู้ป่วยนอก และเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้คลินิกอบอุ่น ยกเป็นกลไกสำคัญบริการสุขภาพประชาชนในเขตเมือง แต่ยืนยันต้องทำตามข้อบังคับของสำนักงบฯไม่สามารถใช้เงินข้ามหมวด โดยดึงงบส่งเสริมสุขภาพมาใช้กับผู้ป่วยนอกได้ เตรียมเสนอบอร์ดสปสช.พิจารณาอีกครั้ง

นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้อำนวยการสปสช.เขต 13 กทม. กล่าวว่า คลินิกชุมชนอบอุ่นในเขตพื้นที่กทม.มี 155 แห่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1.คลินิกเดียวหรือคลินิกที่เจ้าของมีเครือข่าย 1-2 แห่ง 2.คลินิกที่มีเครือข่าย 5-6 แห่งขึ้นไป แต่ไม่เกี่ยวข้องกับรพ. และ 3.คลินิกที่อยู่เครือข่ายรับส่งต่อของรพ. ซึ่งคลินิกประเภทที่ 2 และ 3 นั้นมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีเครือข่ายบริการจำนวนมากในการเฉลี่ยความเสี่ยงได้ แต่คลินิกที่มีปัญหาคือคลินิกประเภทที่ 1 เนื่องจากมีจำนวนคลินิกในเครือน้อย เพียง 1-2 แห่งนั้น ทำให้ต้องรับความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องตามจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือโรงเรียนแพทย์ซึ่งสปสช.ตระหนักดีถึงความสำคัญของคลินิกชุมชนอบอุ่นที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นของประชาชนในเขตเมืองแบบกรุงเทพมหานคร และเข้าใจถึงสภาพปัญหาด้านการเงินการคลังของคลินิกชุมชนอบอุ่นประเภทที่ 1 เป็นอย่างดี มีความพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสปสช.มีคณะกรรมการการเงินการคลังคอยดูแลอยู่ ขณะเดียวกัน ในประเด็นปัญหาภาระค่าส่งต่อนั้น โรงพยาบาลที่รับรักษาต่อก็รับทราบปัญหาและมีส่วนช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา มีการจัดทำระบบราคามาตรฐานเพื่อให้เป็นราคากลางที่สมเหตุผล การส่งกลับกรณีรักษาสิ้นสุดความเร่งด่วน คลินิกสามารถดูแลต่อได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้น

นพ.รัฐพล กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2557 นี้ ในส่วนของการพิจารณางบเหมาจ่ายรายหัวในส่วนงบผู้ป่วยนอกนั้น จะมีการพิจารณาเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับคลินิกอบอุ่นได้ รวมถึงการเพิ่มงบส่วนส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคด้วย ซึ่งมีแผนที่จะสนับสนุนให้ทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การฝากครรภ์ การฉีดวัคซีน การคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง แต่ยังไม่สามารถบอกตัวเลขที่ชัดเจนได้ เนื่องจากการพิจารณางบประมาณยังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วจึงจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง

“อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอที่ให้มีการใช้งบประมาณข้ามหมวด จากงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค มาใช้กับงบตรวจรักษาผู้ป่วยนอกนั้น ต้องขอเรียนชี้แจงว่า ไม่สามารถใช้งบประมาณข้ามหมวดได้ เนื่องจากการใช้งบประมาณในแต่ละหมวดมีกติการองรับอยู่ ตามข้อบังคับของสำนักงบประมาณ การจะแก้ไขต้องดำเนินการผ่านมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) ซึ่งจะมีการรายงานปัญหาดังกล่าวให้บอร์ดสปสช.ได้รับทราบ ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการรายงานปัญหานี้ให้ทราบโดยตลอด จึงเป็นที่มาของการเพิ่มงบผู้ป่วยนอกในปี 2557 เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าในปีงบประมาณ 2557 ที่จะเริ่ม 1 ต.ค.56 นี้ จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้ในระดับหนึ่ง” ผอ.สปสช.เขต 13 กทม. กล่าว