ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นางอินจิรา นิยมธูร ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย (สนอ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการสุ่มตรวจคุณภาพอากาศในอาคารหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม โรงภาพยนตร์ อาคารสำนักงาน เป็นต้น พบว่ายังมีอาคารที่มีลักษณะคุณภาพอากาศที่ไม่ถูกสุขลักษณะตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หมวด 4 ว่าด้วยสุขลักษณะอาคารได้กำหนดให้เจ้าของอาคารจะต้องดูแลอาคารให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะ ส่วนใหญ่พบว่ามีฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ชนิดต่าง ๆ ที่เกิดจากการระบายอากาศหรือการปรับอากาศ รวมถึงการไม่ดูแล พรม ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทำให้ผู้เข้าไปใช้บริการ หรืออยู่อาศัยเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคปอด ซึ่งกทม.จะจัดอบรมการตรวจรับรองคุณภาพอากาศในอาคาร ให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตและบุคคลภายนอก ในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ ที่ห้องปรินซ์บอลรูม 2 โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบทิศทางการส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคารของสนอ.และมีเครือข่ายดำเนินการด้านคุณภาพอากาศในอาคาร นำเสนอค่าแนะนำคุณภาพอากาศในอาคารและแนวทางการตรวจรับรองคุณภาพอากาศในอาคารสำนักงาน และรับฟังความคิดเห็นต่อการดำเนินการด้านคุณภาพอากาศในอาคารที่เหมาะสม นอกจากนี้ สนอ. ได้จัดทำคำแนะนำคุณภาพอากาศในอาคาร ตามพระราชบัญญัติฯที่กำหนดว่าในอาคารทั่วไปควรมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 1,000 ppm. ฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอน (PM10) ไม่เกิน 150 qgm3 แบคทีเรียหรือเชื้อราในอาคาร ไม่เกิน 500 CFU/m3  อาคารที่มีการใช้สารเคมีหรือตกแต่งอาคารใหม่ควรมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ ไม่เกิน 0.1 ppm.  สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายรวมไม่เกิน 3 ppm. เป็นต้น พร้อมยังได้จัดทำแนวทางปฏิบัติในการตรวจรับรองคุณภาพอากาศในอาคารสำนักงาน ที่ผู้ดูแลอาคารและประชาชนสามารถนำไปใช้ดูแลอาคารให้มีคุณภาพอากาศที่เหมาะสม

นางอินจิรา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบสุ่มตรวจในภาพรวมพบว่าขณะนี้ฝุ่นละอองในอาคารยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าใดนัก แต่แนวโน้มในอนาคตนั้น ค่อนข้างเสี่ยง เนื่องจากปัญหาความแออัดของเมืองที่จะมีมากขึ้น ทั้งอาคารและรถยนต์ ซึ่ง กทม.กำลังเร่งแก้ปัญหาด้วยการแนะนำให้เจ้าของอาคารดำเนินการดูแลตามคู่มือดังกล่าวรวมถึงการเตรียมตรวจสอบเพื่อออกป้ายรับรองมาตรฐานตามโครงการ คลีนแอนด์กรีน ของ กทม. เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ที่จะใช้บริการ มีความเชื่อมั่นว่าอาคารได้รับการตรวจสอบคุณภาพทางอากาศแล้ว.

ที่มา--www.dailynews.co.th

เรื่องที่เกี่ยวข้อง