ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ให้อสม.เชี่ยวชาญดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากสภาเทคนิคการแพทย์และแพทยสภา เจาะเลือดฝอยจากปลายนิ้วตรวจหาเบาหวานได้แล้ว และเปิดกว้างให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดซื้ออุปกรณ์ 13 รายการ เพื่อสนับสนุนการทำงานของอสม.ตามบทบาทการเป็นนักจัดการร่วมแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนในหมู่บ้านได้

นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการจัดสรรงบประมาณของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดซื้อเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา เพื่อสนับสนุนแก่อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม. ในการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาโรคเบาหวานในประเทศ จังหวัดละ 2 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพทบทวนความจำเป็นและระเบียบรองรับการปฏิบัติงานของอสม.ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ประชุมผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุข ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า โรคเบาหวานยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเกิดในผู้อายุน้อยลง กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ปรับระบบการเฝ้าระวังจากเดิมในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปเป็นตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปซึ่งมีประมาณ 45 ล้านคนเพื่อป้องกันปัญหาแต่เนิ่นๆ และจัดอบรมอสม.ให้เป็นอสม.เชี่ยวชาญเบาหวานจำนวน 8 หมื่นคน สนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาศักยภาพให้อสม.เป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน จึงสมควรสนับสนุนเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของ อสม. ด้วย

ขณะนี้ นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ เพื่อให้อสม.ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดซึ่งผ่านการรับรองจากสภาเทคนิคการแพทย์และแพทยสภา สามารถเจาะเลือดฝอยจากปลายนิ้วและตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การควบคุมดูแลและการควบคุมคุณภาพของนักเทคนิคการแพทย์หรือแพทย์ มีผลใช้ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป ดังนั้นจากนี้ไป อสม.ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าวจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ส่งหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ให้พิจารณาจัดซื้อชุดตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา หรือแผ่นตรวจน้ำตาลในเลือดได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสมของพื้นที่ พื้นที่ที่มีชุดตรวจน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ก็เปิดกว้างให้สามารถจัดหาอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นซึ่งมี 13รายการ ได้แก่ 1.ชุดตรวจน้ำตาลในเลือด 2.เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล 3.กระเป๋าใส่เครื่องมือ 4.เครื่องชั่งน้ำหนัก 5.ปรอทวัดไข้ 6.เทปวัดรอบเอวหรือชนิดที่สามารถเทียบค่าดัชนีมวลกายได้ 7.เทปหรืออุปกรณ์วัดส่วนสูง 8.แผ่นวัดสายตา 9.กรรไกร 10.ถุงมือ หรือหน้ากากอนามัย 11.ชุดอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้น 12.โทรโข่งหรือเครื่องขยายเสียงชนิดพกพา และ13.แผ่นตรวจน้ำตาลในปัสสาวะ โดยปลัดกระทรวงฯได้กำชับให้ เจ้าหน้าที่รพ.สต. และอสม. มีส่วนร่วมในการพิจารณาจัดซื้อ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุโดยเคร่งครัดต่อไป และรายงานความคืบหน้าการจัดซื้อด้วย