ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นพ.ทวีเกียรติ บุญยไพศาลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำเขตบริการสุขภาพที่ 10 จ.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการจัดบริการสาธารณสุขตามแนวชายแดนว่า ล่าสุด คณะแพทย์ โรงพยาบาล (รพ.) สรรพสิทธิประสงค์ ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของโรงพยาบาลจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6,000,000 คน โดยปีนี้ได้จัดโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องทางหน้าท้อง (Laparoscope) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และการผ่าตัดไส้เลื่อน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ได้ยกทีมงานพร้อมเครื่องมือผ่าตัด ไปทำการผ่าตัดผู้ป่วย 27 ราย ร่วมกับทีมแพทย์ของ สปป.ลาว ที่ รพ.จำปาสัก การรักษาได้ผลดี ผู้ป่วยพึงพอใจมาก เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้ไม่เจ็บแผลมาก เสียเลือดระหว่างการผ่าน้อย ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว หาก รพ.จำปาสัก สามารถให้บริการได้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่ารักษาให้ผู้ป่วยชาวลาวได้ปีละประมาณ 24 ล้านบาท

ทางด้าน นพ.ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า แต่ละปีมีชาวลาวเดินทางเข้ามารับบริการที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เฉลี่ยปีละ 1,580 คน และมีผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีรับการผ่าตัดเฉลี่ย 328 รายต่อปี คิดเป็นร้อยละ 21 ของผู้ป่วยลาวที่มารับบริการทั้งหมด ส่วนใหญ่จะให้การรักษาฟรี เนื่องจากผู้ป่วยชาวลาวฐานะค่อนข้างยากจน

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 1 กรกฎาคม 2556