ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สุดารัตน์เฮ มติป.ป.ช.เอกฉันท์ 8 ต่อ 0 พ้นผิดคดียกเลิกจัดซื้อคอมพ์สธ.ชี้ไม่มีพฤติกรรมบีบข้าราชการกลั่นแกล้งบริษัทที่ชนะประมูล ขณะที่อดีตปลัดสธ.-กรรมการประกวดราคารอดด้วย

สุดารัตน์เปิดใจรู้สึกเหมือนได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ย้ำยังไม่หวนคืนการเมือง ยิ่งลักษณ์นำทีมครม.ใหม่ประกาศต้านคอร์รัปชัน ลั่นเอาจริงแม้เป็นคนที่มีอิทธิพล

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ยกคำร้องคดียกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างคอมพิวเตอร์กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มูลค่า 821 ล้านบาท สมัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขแล้ว

โดยนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง เมื่อวานนี้(2 ก.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคดีการกล่าวหา ร้องเรียนคุณหญิงสุดารัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข กับพวกรวม 16 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

กรณียกเลิกโครงการประกวดราคาจัดซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหารข้อมูลข่าวสาร ด้านการเงินการคลังและข้อมูลโรงพยาบาล จำนวน 818 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2547 โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 8 เสียง ให้ยกคำร้องในประเด็นกล่าวหานักการเมืองที่ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ผู้ช่วยรมว.สาธารณสุข และนายอุดมเดช รัตนเสถียร เลขานุการ รมว.สาธารณสุขในขณะนั้น

ทั้งนี้เนื่องจากไม่พบว่ามีพฤติกรรมข่มขืนใจและบีบบังคับให้ข้าราชการประจำ กลั่นแกล้งบริษัทกิจการร่วมค้า พีสแควร์ ไทยคอม ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดให้ไม่ได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในโครงการดังกล่าว และจากการไต่สวนพยานบุคคลและเอกสารที่มีการอ้างถึง ข้อเท็จจริงไม่มีน้ำหนักที่จะฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ได้กระทำตามที่มีการกล่าวหาร้องเรียน

นายกล้าณรงค์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติเอกฉันท์ยกคำร้องกรณีกล่าวหา นายวิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงขณะนั้นในฐานะผู้อนุมัติยกเลิกการประกวดราคา นอกจากนี้ยังมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 เสียง ว่าการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ที่ประกอบด้วย นายชาตรี บานชื้น ผู้ตรวจราชการฯ นายสมชาย เชื้อเพชระโสภณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสาธารณสุข นายชาญวิทย์ ทระเทพ ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพ นายเทียม อังสาชน ผอ.รพ.สระบุรี นายวิบูลย์ แสงวีรพันธุ์ศิริ จากศูนย์คอมพิวเตอร์คณะวิศวกรรมศาศตร์ จุฬาฯ นายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บ.ทศท คอเปอร์เรชั่น จำกัด(มหาชน) และนายวริทธิ์นันท์ จินดาถาวรกิจ นิติกร 7 กลุ่มกฎหมายสำนักบริหารกลาง ไม่มีมูลความผิด ให้ยกคำร้อง

ทั้งนี้ในส่วนการกล่าวหานายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดกระทรวงสธ. ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการประกวดราคาซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ปี 2547 นายจรัญ ตฤณวุฒิพงษ์ อธิบดีกามควบคุมโรคและรักษาราชการแทนปลัดสธ. และนายบุญเลิศ ลิ้มทองกุล ผู้ตรวจราชการฯ ที่ประชุมป.ป.ช.มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปในการประชุมครั้งต่อไป

สุดารัตน์รู้สึกเหมือนได้ศักดิ์ศรีคืน

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์หลังรับทราบมติป.ป.ช.ว่า ดีใจที่ยังได้รับความเป็นธรรม รู้สึกเหมือนได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา หลังจากที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมมา 7 ปี เหมือนเป็นตราบาป

เพราะคนพิพากษาเราไปแล้วว่าเราเกี่ยวข้องกับการทุจริต ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริง เป็นคนสั่งให้ยกเลิกการจัดซื้อคอมพ์ การยกเลิกก็ทำตามความเห็นของกรมบัญชีกลาง และมีการส่งเงินคืนกระทรวงการคลัง ทุกบาททุกสตางค์ไปเรียบร้อยแล้ว ขอความเห็นใจ และเข้าใจจากสาธารณชนด้วย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากจากนี้จะนัดหารือกับบุคคลอีก 20 กว่าคนที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะฟ้องกลับหรือไม่ และหากฟ้องจะฟ้องในประเด็นใด

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังระบุด้วยว่า ตัวเธอจะร่วมเขียนหนังสือกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์และจะชี้ให้เห็นว่ามีขั้นตอนไหนที่มีการใช้เอกสารปลอมในการสร้างเรื่องขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะยังไม่เข้าสู่การเมืองในขณะนี้ โดยจะขอทำงานด้านศาสนาให้แล้วเสร็จก่อน

 นายกฯกำชับครม.ซื่อสัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.วันเดียวกัน โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายกฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ ที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง และได้ชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาล ที่จะต้องมุ่งต่อยอดจากโครงการเดิม มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นสำคัญ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าการทำงานต้องยึดหลักการดำเนินงานตามนโยบายที่ได้มีการแถลงไว้ต่อรัฐสภา และขอให้รัฐมนตรีทุกคน มุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน การดำเนินงานทุกอย่างต้องโปร่งใส ซื่อสัตย์ ตรวจสอบได้ มีความชัดเจน และให้ประชาชนมีส่วนร่วม

นายกฯนำทีมประกาศต้านคอร์รัปชัน

บ่ายวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมด้วยปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมประกาศเจตนารมณ์เดินหน้าพัฒนาประเทศไทย โดยยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยให้ครม.ชุดใหม่ ร่วมกันสานต่อนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อสร้างมิติใหม่ให้เป็นคณะรัฐมนตรีที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายของสังคมเข้ามาร่วมตรวจสอบให้เกิดความมั่นใจ และเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน

นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ครม.มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาล ในการต่อต้านการทุจริตของรัฐบาล ด้วยการกำหนดหลักการเพื่อส่งเสริมผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเปิดเผยข้อมูลในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเป็นรูปธรรม และให้มีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อผู้เสนอราคาหรือผู้เสนองานทุกราย เพื่อสร้างความโปร่งใสและเที่ยงธรรม

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการจะจัดทำโครงการ 1 กรม 1 ป้องกันโกง ด้วยการขยายผลไปยังหน่วยงานรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตประจำกระทรวง (ศปท.) การดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (ปปท.) และการสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยให้มีผู้สังเกตการณ์จากภายนอก

รัฐบาลมั่นใจว่าครม.ชุดใหม่ที่นอกจากที่จะมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งในแต่ละกระทรวงแล้ว ทุกท่านยังมีความตื่นตัวในการที่จะร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อสร้างมิติใหม่ให้เป็นคณะรัฐมนตรีที่ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม และไม่ว่าจะเป็นใคร มีอิทธิพลเพียงใด หากทำการทุจริต รัฐบาลจะดำเนินการ โดยไม่ละเว้น

 ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 3 กรกฎาคม 2556