ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (อย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ ประธานคณะกรรมการชี้แจงผลการสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาเปิดเผยข้อมูลกรณีการเลิกจ้าง ผอ.องค์การเภสัชกรรม(อภ.) ได้นัดสื่อมวลชนและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปดูข้อมูลตลอดจนเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แต่มีเพียงสื่อมวลชนเท่านั้นที่ไปฟังการชี้แจง โดย นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า จากผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตพาราเซตามอล การก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ และการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ล่าช้า บอร์ด อภ. พิจารณาแล้วเห็นว่า  มีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ อภ.เสียหาย จึงมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรียกค่าเสียหาย รวมไปถึงกรณียาโคลพิโดเกรล การจัดซื้อวัตถุดิบโอเซลทามิเวียร์ และการจัดซื้อเครื่องตรวจจอประสาทตาและเครื่องวัดความดันตา  ซึ่งมีการสั่งซื้อด้วยวิธีพิเศษ เมื่อผ่านระยะเวลาหนึ่งได้มีการส่งเครื่องกลับไปยังผู้จำหน่ายให้ช่วยจำหน่ายแทน แถมมีการเปลี่ยนเครื่องให้สเปกสูงขึ้น

"หักกลบลบหนี้แล้วบริษัทเอกชนยังค้างชำระอยู่ ซึ่งมีการฟ้องร้องกันแล้ว เรื่องนี้ได้มีการไต่สวนหาผู้รับผิดชอบ ผ่านมา 2-3 ปี ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ อภ.จัดซื้อเครื่องจอประสาทตา รุ่นแรก 4 เครื่อง ราคาเครื่องละ 7.5 แสนบาท แต่สามารถจำหน่ายได้ 1 เครื่อง ที่เหลือ 3 เครื่องนำไปฝากขายกับบริษัท แต่มีการนำไปเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่กว่าราคา 8 แสนบาท โดยต้องจัดซื้อพร้อมเครื่องวัดความดันตา 2 แสนบาท ทำให้ตกราคาชุดละ 1 ล้านบาท  จะขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ แต่ติดระเบียบว่าไม่สามารถจำหน่ายได้ จึงต้องจำหน่ายผ่านบริษัท แต่กลับไม่ส่งเงินให้ อภ. ขณะนี้เหลืออยู่ที่ อภ.1 เครื่อง" นพ.พิพัฒน์ กล่าว.--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 กรกฎาคม 2556