ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หมอสมเกียรติ แนะรัฐลงทุนกับงานวิจัย สร้างมูลค่าสินค้าของประเทศ เพื่อหลุดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ชี้อย่าหลงพัฒนาประเทศด้วยสิ่งปลูกสร้าง

ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล เลขานุการสภาวิจัยแห่งชาติ(วช.) สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เมื่อปี 2555 ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางไปจนถึงรายได้สูงโดย ในขณะเดียวกันธนาคารโลกได้ให้คำแนะนำแก่ประเทศไทยว่าต้องเน้นเรื่องการวิจัยเพื่อเอาไปสนับสนุนในสินค้าและบริการของประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการนั้นๆ เพื่อให้หลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง อย่างเช่นก่อนหน้านี้ได้ให้คำแนะนำกับประเทศเกาหลีใต้ไป ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 100 กว่าประเทศทั่วโลกซึ่งมีรายได้ปานกลางยังติดกับดักการพัฒนาประเทศด้วยสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงประเทศไทยถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ดังนั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องกลับมาคิดให้มากว่าจะเดินไปทางไหน การรับผลิตยางรถยนต์ ผลิตอะไหล่รถยนต์ เราไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิประโยชน์ที่แท้จริง ดังนั้นรัฐต้องสร้างแนวคิดวิทยาศาสตร์ แหล่งทุนสำหรับงานวิจัยซึ่งขณะนี้ยังเป็นปัญหาอยู่เพราะที่ผ่านมาการให้ทุนจะกระจายเป็นโควต้าให้กับกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ โดยไม่คำนึงว่าสอดรับกับประโยชน์ของชาติหรือไม่ จากข้อมูลของ วช.พบมาว่ามีเพียง 12% ของผู้ที่ได้รับทุนแล้วสามารถทำวิจัยสำเร็จและส่งให้กับวช. โดยเฉพาะแพทย์ไทยที่มีความสามารถสร้างผลงานการศึกษาวิจัยจนได้รับตีพิมพ์ไม่น้อยหน้าประเทศใดในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นถ้าประเทศไทยสามารถเอาไปต่อยอดในเชิงพานิชย์ อย่าเอาแต่กอดลิขสิทธิ์ไว้ ต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนในประเทศพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ เพื่อพัฒนาประเทศไทย อย่างที่ผ่านมามีข่าวเรื่องนักวิจัยขายวัคซีนให้กับต่างประเทศนั้นตนมองว่าก็ดีกว่าแช่แข็งผลงานนั้นเอาไว้โดยไม่เกิดประโยชน์

“วิธีคิดคือให้เขามาเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยขึ้นอยู่กับการตกลงเบื้องต้นเลย หรือถ้าให้ดีเขียนเป็นกฎหมายหมายเอกชนถึงจะกล้าลงทุน รายได้ก็หักบางส่วนเข้ารัฐ คือตรงนี้กำลังเสนอกฎหมายให้เอื้อตรงนี้อยู่” ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าว