ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้อาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศ เร่งป้องกันป่วยและลดการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก โดยให้ดำเนินการรณรงค์ปราบยุงลายที่บ้าน โรงเรียน ชุมชน และให้ความรู้อาการของไข้เลือดออก ให้ประชาชนรีบพบแพทย์ตั้งแต่มีไข้สูง เพื่อลดการเสียชีวิต

วันนี้ (17 กรกฎาคม 2556) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวรณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์มาตรการแก้ไขปัญหาไข้เลือดออก ว่า ขณะนี้ พบผู้ป่วยสะสมตลอดเกือบ 7 เดือนประมาณ 70,000 คน เสียชีวิต 71 คน ซึ่งในเดือนกรกฎาคมนี้เป็นช่วงที่โรคมีการระบาดสูงสุด เนื่องจากมีฝนตกชุก จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นประมาณสัปดาห์ละ 8,000 คน ดังนั้นจะต้องเน้น 2 เรื่องหลัก คือ การกำจัดยุงลายที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออกให้ได้ เพื่อลดจำนวนคนป่วย และป้องกันการเสียชีวิต โดยให้คนป่วยพบแพทย์แต่เนิ่นๆ ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ที่มีกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เร่งดำเนินการปราบยุงลาย ทั้งในบ้าน ที่พักอาศัย โรงเรียน ชุมชน และให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับอาการของโรคไข้เลือดออก และให้รีบไปพบแพทย์หากมีไข้สูงลอยเกิน 2 วัน เนื่องจากพบว่าผู้เสียชีวิตหลายรายมาพบแพทย์ช้าไป

“ต้องยอมรับว่าไข้เลือดออกหากมาถึงขั้นช็อคซึ่งจะเกิดหลังไข้ลด จะรักษายาก แต่เมื่อวิเคราะห์ในกลุ่มผู้ป่วยกว่า 60,000 กว่าคน พบว่าอัตราการเสียชีวิตต่ำ มีผู้เสียชีวิต 70 กว่าคน แต่เรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจคือประชาชนมักจะชะล่าใจว่าไข้เลือดออกจะเป็นในเด็กเล็ก ไม่ได้เป็นในเด็กโต แต่ขณะนี้พบว่าประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษา อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี จะต้องเร่งให้ความรู้ในกลุ่มนี้ให้มากขึ้น หากป่วยอย่าชะล่าใจ หรือซื้อยาแอสไพรินมากินเอง เพราะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อไปว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประชุมวอร์รูมไข้เลือดออก ติดตามผลการดำเนินงานทุกจังหวัด หากพบว่าจังหวัดใดมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเกิดต่อเนื่องในพื้นที่เดิม 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แสดงว่ามีปัญหาเรื่องการระบาด ระบบการป้องกันควบคุมโรคยังไม่ดีพอ และมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมในการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกไม่ให้นำเชื้อไปแพร่คนอื่น โดยกางมุ้ง และทายากันยุง เพื่อป้องกันผู้ป่วยถูกยุงกัด และนำไปติดต่อคนอื่น