ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.วางแผนเยียวยาลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ภายในกันยายน 2556 ก่อนเข้าสู่ตำแหน่ง 1 ตุลาคม 2556 คาดมีประมาณ ไม่เกิน 5,000 คน

วันนี้ (5 สิงหาคม 2556) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับฟังข้อเสนอจากตัวแทนสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย ที่เข้าพบและหารือกรณีการปรับค่าจ้างไม่ให้ต่ำกว่าค่าจ้างปัจจุบันและบวกประสบการณ์ตามอายุการทำงาน รวมทั้งขอเพิ่มจำนวนลูกจ้างในคณะกรรมการพนักงานกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวว่าการดำเนินการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขนั้น เป็นความพยายามของกระทรวงสาธารณสุขในการสร้างขวัญกำลังใจและความมั่นคงให้แก่บุคลากรในสังกัด ควบคู่กับการขอรับการบรรจุเป็นข้าราชการ ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนกำหนด ในการขอตำแหน่งข้าราชการเพิ่ม ซึ่งเป็นการปรับตัวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของบุคลากรในทุกโรงพยาบาลเพื่อบริการประชาชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งใน 128 สายงาน ที่จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 27 สิงหาคม 2556 นี้

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีจำนวนลูกจ้างชั่วคราวในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด ประมาณ 1.4 แสนคน ทั้งในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและในกรมต่างๆ ที่ต้องได้รับการปรับเข้าสู่ตำแหน่งในครั้งนี้ และคาดว่าจะมีลูกจ้างชั่วคราวประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์หรือไม่เกิน 5,000 คน ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ทั้งค่าจ้างที่ลดลง และการคิดค่าประสบการณ์ ซึ่งผู้บริหารและคณะกรรมการทุกคนได้รับทราบปัญหาและวางแผนแก้ไขมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เร่งสำรวจจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2556 นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และมีมาตรการเยียวยาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2556 เพื่อให้เดินหน้าเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานกระทรวงสาธารณสุขใน 1 ตุลาคม 2556 ทั้งนี้ หากลูกจ้างชั่วคราวคนใดที่ไม่มั่นใจที่จะเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานกระทรวงสาธารณสุข สามารถเลือกดำรงสถานะเป็นลูกจ้างชั่วคราวไปก่อนได้ โดยได้รับสิทธิเดิม

“สิ่งที่ทางสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างฯ ที่มาเรียกร้องในวันนี้ ผู้บริหารรับทราบว่าเป็นปัญหา ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา ต้องรอจำนวนคนและจำนวนเงิน แหล่งที่มาของเงินที่ต้องเยียวยา จึงอยากจะขอให้เดินหน้าดำเนินการไปก่อนเพื่อสร้างความมั่นคงให้บุคลากรกลุ่มใหญ่ ปัญหาทุกอย่างต้องได้รับการแก้ไข ตามลำดับความสำคัญของปัญหา สิ่งที่จะทำเป็นเรื่องแรกคือเรื่องค่าแรงต่าง ๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น การกำหนดสายงานคอมพิวเตอร์ นักวิชาการสารสนเทศ ก็ต้องค่อยๆ แก้ไขกันทีละเรื่องก่อน ต้องไปดูเหตุและผล เพราะความจำเป็นของแต่ละหน่วยงาน” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว