ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอประดิษฐ”เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี จัดเวทีหารือเพิ่มสิทธิค่ารักษาพยาบาลและสิทธิบำเหน็จรายเดือนลูกจ้างประจำของส่วนราชการ อีก 2 สัปดาห์ 

นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตัวแทนสมาคมลูกจ้างประจำแห่งประเทศไทย นำโดยนายอรรพล งามดี นายกสมาคมลูกจ้างประจำฯและคณะกรรมการฯ เข้าพบหารือและยื่นหนังสือข้อเสนอขอเพิ่มสิทธิเรื่องสิทธิค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้รับบำเหน็จรายเดือนและการให้สิทธิผู้รับบำเหน็จรายเดือน ด้วยเหตุสูงอายุ/รับราชการนาน

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นตัวแทนรับข้อเสนอจากตัวแทนสมาคมลูกจ้างประจำแห่งประเทศไทยที่ประสงค์ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสนอข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1.สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล โดยขอให้มีสิทธิเหมือนข้าราชการหลังเกษียณ โดยในเรื่องสิทธิค่ารักษาพยาบาล ปกติลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานอยู่ ก็จะได้สิทธิรักษาพยาบาลเหมือนข้าราชการ แต่เมื่อเกษียณแล้วต้องกลับไปใช้สิทธิ 30 บาทรักษาโรคทั่วไป

2.ขอเพิ่มคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับบำเหน็จรายเดือนเมื่อพ้นจากราชการ ด้วยเหตุสูงอายุ/รับราชการนาน โดยขอให้มีสิทธิเหมือนข้าราชการ กล่าวคือ ข้าราชการผู้มีสิทธิรับบำนาญ ต้องมีอายุราชการ 10 ปี และเข้าคุณสมบัติด้วยเหตุ 4 เหตุข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ เหตุสูงอายุ (อายุตัว 50 ปี) เหตุรับราชการ (อายุงาน 25 ปี) เหตุทุพพลภาพ (หมอมีใบรับรองแพทย์ว่าสามารถงานได้) เหตุทดแทน (หน่วยงานยุบเลิกหรือเจ็บป่วย ไม่สามารถปฏิบัติงานปกติได้สม่ำเสมอ) ดังนั้นกรณีสมาคมลูกจ้างขอเพิ่มเติมคุณสมบัติในครั้งนี้ คือ มีอายุราชการ 10 ปี บวกเหตุสูงอายุ (อายุตัว 50 ปี)

“โดยตัวแทนที่มาในวันนี้แจ้งว่า ในวันที่ 13 สิงหาคม 2556 จะมีกลุ่มลูกจ้างประจำทั่วประเทศ มาเรียกร้องขอสิทธิข้างต้น แต่จากการประชุมหารือกันในวันนี้ คณะกรรมการสมาคมมีความเห็นร่วมกันว่า ควรระงับการเคลื่อนไหวไว้ก่อน โดยขอนัดพูดคุยกับกลุ่มตัวแทนในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อหาข้อมูลรายละเอียด และจะขอเชิญตัวแทนกลุ่มลูกจ้างประจำ จำนวนไม่เกิน 25 คน เข้ามาหารือถึงวิธีการร่วมกัน เพื่อนำข้อเสนอดังกล่าวไปนำเรียนต่อนายกรัฐมนตรีก่อน ว่ามอบหมายใครเป็นหัวหน้าในการพูดคุยกันในครั้งนี้ และมอบให้ทางสมาคมฯ ไปจัดทำข้อมูลต่าง ๆ ประกอบการหารือร่วมกัน เช่น จำนวนลูกจ้างประจำ ณ ปัจจุบัน จำนวนผู้รับบำเหน็จรายเดือน ตั้งแต่ปี 2552 และจำนวนเงินงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายในเรื่องนี้ รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นต่าง ๆ เพื่อใช้ตอบคำถามกับกลุ่มอื่นๆ ต่อไป และคิดว่าเรื่องนี้สามารถมีคำตอบภายใน 60 วัน” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว