ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายงดเหล้า จี้ “รมว.ชัชชาติ” ประสาน สธ.ออกประกาศห้ามขาย ห้ามดื่มน้ำเมาบนรถไฟ เหตุสร้างความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท ลวนลาม บนรถไฟ 

วันนี้ (22 ส.ค.) นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกวดขันความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการรถไฟ โดยเฉพาะปัญหาการดื่มสุราบนรถไฟในหลายขบวน ซึ่งเกิดขึ้นทุกวัน ว่า ปัจจุบันกฎหมายห้ามดื่มสุราบนรถ ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนถึงขั้นจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน1หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่กฎหมายดังกล่าวไม่ครอบคลุมไปถึงรถไฟ ทำให้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ มีเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นปัญหา  สร้างความรำคาญในการเดินทาง ผู้โดยสารเกิดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท ลวนลาม คุกคามทางเพศ ซึ่งในสังคมไทย คนส่วนใหญ่ไม่ดื่ม กฎหมายนี้จึงคุ้มครองคนส่วนใหญ่ และคุ้มครองผู้ดื่มเองด้วย  เพราะผู้ที่ดื่มสุราบนรถไฟมีความเสี่ยงสูงที่จะตกรถไฟ หรือเกิดอุบัติเหตุอื่นๆตามมามากมาย และสิ่งที่ยังพบเห็นในขบวนรถไฟ คือ การเร่ขาย ซึ่งตามกฎหมายแล้วถือว่ามีความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ทันที เพราะ พ.ร.บ.ฉบับนี้ตามาตรา 30(2)ห้ามเร่ขายอยู่แล้ว

นายธีระ กล่าวว่า ที่ผ่านมามาตรการห้ามดื่มบนรถ ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วน เนื่องจากเป็นมาตรการที่ช่วยทำให้เกิดสวัสดิภาพที่ดี ลดปัญหาทางสังคม อีกทั้งพนักงานขับรถโดยสาร ยังระบุว่า ช่วยลดปัญหาผู้โดยสารเมาในรถ รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น และเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารบนรถไฟ และง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขอเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคม ประสานงานกับคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ  หรือ กระทรวงสาธารณสุข เร่งออกประกาศ ห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ โดยไม่ควรมีข้อยกเว้นใดๆให้ยากในการปฏิบัติ อีกทั้งกระทรวงคมนาคมก็ควรนำกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มในรัฐวิสาหกิจซึ่งมีอยู่แล้วมาบังคับใช้ด้วยเช่นเดียวกันกับสถานีขนส่งผู้โดยสาร (หมอชิต) และอู่รถเมลล์ของ ขสมก. ที่ประกาศให้เป็นสถานที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว  เพื่อทำให้ทุกสถานีรถไฟปลอดผลกระทบจากน้ำเมาได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามทางเครือข่ายงดเหล้า ร่วมกับผู้ได้รับผลกระทบจากเครืื่องดื่มแอลกอฮอล์ เตรียมเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้เร่งออกประกาศดังกล่าวในเร็วๆนี้

“ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ความสนใจและต้องการแก้ปัญหาอย่างที่กล่าวไว้จริง ก็คงทำได้ไม่เกินความสามารถ อีกทั้งการออกประกาศหรือรณรงค์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมายอะไร เพียงแค่สร้างเครื่องมือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองสุขภาพความปลอดภัยผู้โดยสาร อีกทั้งยังช่วยให้เจ้าหน้าที่รถไฟทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย” นายธีระ กล่าว