ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนกที่ล่าช้าว่า ภญ.พิศมร กลิ่นสุวรรณ รักษาการ ผอ.อภ. สามารถตกลงกับผู้รับจ้างเดิมให้ดำเนินการก่อสร้างต่อภายในวงเงิน 45 ล้านบาท โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 513 วัน ซึ่งในวันที่ 5 ก.ย. บอร์ด อภ. จะประชุมนัดพิเศษเพื่อเร่งรัดการดำเนินงานและจัดทำรายงานเสนอ รมว.สาธารณสุข และ ครม. เห็นชอบโดยเร็ว ส่วนปัญหาขาดแคลนยาหัวใจโคลพิโดเกรลที่บริษัทยาประเทศอินเดียไม่ยอมส่งยา 18 ล้านเม็ด ให้ตามกำหนดนั้น อภ. ได้แก้ปัญหาโดยการซื้อยาอย่างเร่งด่วน 3 ล้านเม็ด สามารถใช้ได้ 3 เดือน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหายาขาดส่งซึ่งมีการซื้อจากเพียงบริษัทเดียว จึงมีการขึ้นทะเบียนยานี้เพิ่มขึ้นอีก 2 แหล่ง

ด้าน ภญ.พิศมร กล่าวว่า ยาที่ซื้อที่บริษัทยาจากประเทศอินเดียไม่สามารถส่งยาโคลพิโดเกรลให้ อภ. ได้ ตนได้แก้ปัญหาด้วยการส่งหนังสือขอสงวนสิทธิในการปรับเงินวันละ 0.2% ขอสงวนสิทธิยกเลิกสัญญาการซื้อขายยึดเงินมัดจำ และหาก อภ. มีความจำเป็นต้องซื้อยาชนิดเดียวกันแต่ราคาแพงกว่าบริษัทดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างภายหลังจากที่ อภ. ได้ส่งหนังสือขอสงวนสิทธิไปบริษัทคู่สัญญาได้แจ้งกลับมาว่าสามารถส่งยาโคลพิโดเกรลลอตแรกจำนวน 8 ล้านเม็ด ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านเม็ด จะทยอยส่งมอบในวันที่ 5 และ 15 ต.ค. ส่วนความคืบหน้าในการเปลี่ยนคืนวัตถุดิบพาราเซตามอล 143 ตัน จากการประสานงานล่าสุด อภ. ได้ขอประเทศจีนส่งวัตถุดิบพาราเซตามอลกลับมาเป็นลอต ๆ ละ 15 ล้านตัน ตามกำลังการผลิตของโรงงานเภสัชกรรมทหาร (รภท.) ที่รับจ้างผลิตให้กับ อภ. โดยวัตถุดิบลอตแรกจะเข้ามาภายใน 2 เดือนนี้  อย่างไรก็ตาม อภ. ไม่มีแผนผลิตยาพาราเซตามอล เพราะมียาตัวอื่นรอคิวการผลิตอยู่จำนวนมาก

ที่มา --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 28 ส.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--