ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มติชน - นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงภารกิจที่อยากให้ปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่สานต่องานหลังจากที่ จะเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้ว่า อยากให้สานต่อในการพัฒนาแรงงานไทย เพื่อเตรียม รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือและภาษาต่างประเทศ รวมทั้งวางมาตรการกลั่นกรองแรงงานช่างฝีมือต่างชาติสาขาต่างๆ ที่จะเข้ามาทำงานในไทย  เพื่อให้ได้แรงงานฝีมือ ที่มีคุณภาพ  รวมทั้งควรแก้ปัญหาเรื่องการขาด แคลนแรงงานและการบริหารแรงงานต่างด้าวอย่างควบคู่กันไป โดยสำรวจให้ชัดเจนว่า แต่ละสาขาอาชีพผู้ประกอบการต้องการแรงงาน ไทยและต่างด้าวเป็นจำนวนเท่าใด หากจำเป็นต้องใช้ก็ควรนำเข้าแรงงานต่างด้าวผ่านระบบความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐต่อรัฐ

"การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวของไทยที่ผ่านมา เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คือ เมื่อแรงงานต่างด้าวหลบเข้ามาทำงาน และมีเสียงเรียกร้องก็จะใช้วิธีเปิดจดทะเบียนรอบหนึ่ง ทำให้แรงงานต่างด้าวลอบเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ควรหันมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือ เร่งขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่มายื่นเรื่องไว้ให้แล้วเสร็จ นำแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง" นพ.สมเกียรติกล่าว และว่า หลังจากนั้นหากมีความต้องการ แรงงานก็ใช้วิธีนำเข้าแรงงานต่างด้าวผ่าน เอ็มโอยูให้เป็นระบบและรัดกุม เพื่อป้องกันถูกกล่าวหาค้ามนุษย์ ซึ่งผมเห็นด้วยกับนโยบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ชี้แจงทำความเข้าใจการป้องกันและแก้ปัญหาค้ามนุษย์กับทางการสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ต้องรีบชี้แจงทันที โดยที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปแล้ว 2 ครั้ง

นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวถึง การบริหารสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า ควรขยายความคุ้มครองไปสู่แรงงานนอกระบบ รวมทั้งมีประกันสังคมถ้วนหน้า ซึ่งเคยศึกษาไว้แล้วและเตรียมความพร้อมแก้ปัญหาเงินกองทุน สปส.ไหลออกเป็นจำนวนมาก เพราะต้องจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ สปส.ได้ศึกษาไว้บ้างแล้ว เช่น การขยายอายุเกษียณ การเพิ่มอัตราเงินสมทบ การ เพิ่มการลงทุน เป็นต้น

ที่มา--มติชน ฉบับวันที่ 1 ต.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--