ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ -เมื่อวันที่ 13 ต.ค. น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวถึงกรณี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ภายใต้คณะกรรมการ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เสนอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้ามาดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลของประกันสังคมโดยโอนค่าหัวประกันสังคมให้ สปสช. บริหารจัดการเพราะมีความถนัดมากกว่าและเมื่อผู้ประกันตนเกษียณการทำงานก็ต้องเข้ามาอยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพว่า ก่อนที่จะมีโอนสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลของประกันสังคมไปให้ สปสช. บริหารจัดการทั้ง สปสช. และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ควรจะประเมินจุดอ่อนในการบริหารจัดการการให้บริการและรักษาพยาบาลของแต่ละหน่วยงานว่ามีเรื่องใดบ้างที่ยังเป็นจุดอ่อน เช่น สิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การเข้าถึงสิทธิการรักษา ยาที่ใช้รักษา การส่งต่อผู้ป่วย จำนวนแพทย์และพยาบาลมีเพียงพอหรือไม่และทั้งสองหน่วยงานก็ปรับปรุงมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกันระหว่างทั้งสองระบบ

น.ส.วิไลวรรณ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นทั้งสองหน่วยงานจึงค่อยมาหารือกันเรื่องการโอนสิทธิรักษาพยาบาลซึ่งควรจะให้ผู้ประกัน ตนกว่า 10 ล้านคน ทุกคนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมคิดร่วมตัดสินใจไม่ควร ยึดตัวกฎหมายแล้วดำเนินการโอนโดยไม่ให้ผู้ประกันตนได้ตัดสินใจ ขอเสนอให้เปิดเวทีประชาพิจารณ์ผู้ประกันตนทั่วประเทศรวมไป ถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งนายจ้างและรัฐบาลได้ร่วมกันคิดและตัดสินใจว่าควรจะโอนไปหรือไม่ ทุกฝ่ายจะร่วมจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมในส่วนของสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเช่นเดิมหรือไม่และรูปแบบบริหารจัดการควรออกมาเป็นเช่นไร

"ถ้า สปส. และ สปสช. มีมาตรฐานการดูแลรักษาพยาบาลที่ใกล้เคียงกันก็ไม่มีอะไรน่าห่วงเรื่องมาตรฐานการรักษา ซึ่ง สปสช. ควรดูแลรับผิดชอบเฉพาะการบริหารจัดการระบบให้มีประสิทธิภาพเท่านั้น ส่วนงบค่ารักษานั้นควรให้ สปส. จัดเก็บและดูแลและโอนเงินไปให้ สปสช. โดยส่วนตัวเห็นว่าผู้ประกันตน นายจ้างและรัฐบาลควรยังต้องจ่ายเงินสมทบในส่วนของสิทธิการรักษาเข้ากองทุนประกันสังคมเช่นเดิมเพื่อให้กองทุนสิทธิรักษาพยาบาลมีความยั่งยืน ที่สำคัญโจทย์ใหญ่ที่ สปสช. ต้องแก้ไขให้ได้คือจะทำอย่างไรให้กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความมั่นคงในระยะยาวไม่ให้เกิดปัญหาแก่ผู้ประกันตนและประชาชนที่อยู่ในความดูแลของ สปสช." น.ส.วิไลวรรณ กล่าว