ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีแนวคิดจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางโดยสายการบิน 500 บาทต่อราย และกลุ่มที่เดินทางโดยรถยนต์ หรือเดินข้ามพรมแดนวันละ 30 บาท ว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้และหากภาครัฐจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบก่อน เพราะยังไม่ทราบถึงกฎเกณฑ์ว่าเก็บไปแล้วจะช่วยอะไรได้ รวมถึงการออกมาบอกว่าจะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาอาศัยในประเทศไทยระยะยาว(ลองสเตย์) ก็ควรจะหามาตรการอื่นที่ไม่ต้องเรียกเก็บเงิน 500 บาทจากนักท่องเที่ยวมากกว่า

"การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยว เหมือนเป็นการผลักภาระให้ภาคเอกชน เพราะขณะนี้แค่เรื่องการทำตลาดเอกชนก็ เหนื่อยมากแล้ว หากจะต้องมาทำเรื่องนี้อีกก็ไม่ช่วยเรื่องตลาดเท่าไหร่ รวมถึงหากจะช่วยเรื่องลองสเตย์จริง ๆ รัฐบาลก็น่าจะมีมาตรการที่ดีกว่านี้ โดยหันไปแก้ไขที่ต้นเหตุมากกว่า ว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร"

นายชิดชัย สาครบดี รองนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวและเจ้าของบริษัททัวร์ที่ดูตลาดยุโรป กล่าวว่า การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมไม่เป็นการส่งเสริมที่ดีนัก เพราะเหมือนเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้นักท่องเที่ยว ซึ่งการเก็บในครั้งนี้ก็ซ้ำซ้อนกับการประกันภัยที่นักท่องเที่ยวมีติดตัวมาอยู่แล้วด้วย

ทั้งนี้จากปกติเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย จะต้องมีประกันภัยติดตัวมา รวมถึงบริษัททัวร์ต่าง ๆ จะต้องทำประกันภัยให้นักท่องเที่ยวอยู่แล้วด้วย ซึ่งการทำลักษณะนี้ก็ถือว่าซ้ำซ้อนมากพออยู่แล้ว อีกทั้งยังมีกฎหมายบางข้อที่ระบุว่านักท่องเที่ยวจะไม่สามารถรับเบี้ยประกันสองต่อได้หากเกิดอันตรายกับตนเอง ก็จะต้องเลือกการประกันภัยที่ได้วงเงินสูงสุดเพียงบริษัทเดียวอยู่ดี

แหล่งข่าวระดับสูงจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับนโยบายนี้ ททท. ไม่รู้ว่าคิดอะไร ทำอะไรกันอยู่ แต่ ททท. ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าไม่เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนที่เป็นรูปธรรมกับนโยบายดังกล่าว ทั้งรูปแบบการจัดเก็บ วัตถุประสงค์ การตรวจสอบในการนำเงินค่าธรรมเนียมที่ได้จากการจัดเก็บไปใช้ และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อความรู้สึกนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน หากจะมีมาตรการควรมีมุมมองหลากหลายด้าน และมีแนวทางชัดเจน ตอบคำถามนักท่องเที่ยวได้ว่านำเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ส่วนใด สมเหตุสมผลหรือไม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจะได้อะไรจากค่าส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่ม

ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้เพราะเป็นการหาเงินเข้ามาชดเชยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดือดร้อน และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล รวมถึงเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่แฝงเพื่อเข้ามารักษาพยาบาลในเมืองไทย โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ซึ่งรัฐจะต้องสูญเสียงบประมาณเพื่อส่งนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเงินซื้อตั๋วกลับประเทศ  เพื่อลดภาระงบประมาณประจำปีสำหรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

"ยอมรับว่าหลักการเพื่อช่วยแก้ปัญหาภาระนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเร่ร่อน นักท่องเที่ยวที่ไม่มีเงินรักษาตัวระหว่างอยู่เมืองไทย ทำให้ไม่ต้องนำงบประมาณประจำปีไปใช้ ขณะเดียวกันสถานทูตต่าง ๆ ก็ไม่มี เงินช่วยเหลือส่งนักท่องเที่ยวของตนเองกลับประเทศ แต่รูปแบบการจัดเก็บเงิน การตรวจสอบงบประมาณนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขว่าจะดำเนินการอย่างไร"

ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ต.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--