ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มติชน - เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า การใช้จ่ายเงินในการซื้อยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจนทะลุระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 31.67 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรกในปีหน้า โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการวางจำหน่ายของยาที่เป็นนวัตกรรมใหม่จำนวนมาก และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่นำโดยจีน

การเพิ่มขึ้นที่คาดการณ์ไว้ในรายงานประจำปีของสถาบันสนเทศศาสตร์เพื่อสุขภาพไอเอ็มเอส ชี้ไปที่การ กลับมาเติบโตหลังจากที่หยุดชะงักไประหว่างปี 2556 ภายหลังจากช่วงเวลาการหมดอายุของสิทธิบัตรจำนวนมาก การรัดเข็มขัดด้านสาธารณสุขและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวงจำกัด

ในประเทศตลาดเกิดใหม่ ความต้องการในการซื้อบริการที่ให้ความคุ้มครองด้านประกันสุขภาพของชนชั้นกลางที่กำลังเพิ่มมากขึ้น สอดรับกับการขยายตัวของโครงการประกันสุขภาพที่ขยายเงื่อนไขการคุ้มครองให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และนโยบายด้านสาธารณสุขที่เฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย อย่างเช่น การเพิ่มอัตราของผู้ที่ได้รับวัคซีน

การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการใช้ยาสามัญที่หมดอายุสิทธิบัตรมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเติบโตจาก 27 เปอร์เซ็นต์ เป็น 36 เปอร์เซ็นต์ของตลาดทั่วโลกภายในปี 2560 และน่าจะมากถึง 63 เปอร์เซ็นต์ในประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่เติบโตเร็ว

ไอเอ็มเอสคาดการณ์ว่า ตลาดยาโดยรวมในจีนจะเติบโตขึ้นราว 14-17 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้จีนแซงหน้าญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่ที่สุดด้านสาธารณสุขของโลกเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา

ที่มา --มติชน ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--