ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการระบายน้ำเกลือหลายล้านถุงที่ อภ. เคยซื้อมาเก็บไว้จำนวนมากให้กับ รพ.ต่าง ๆ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า ตอนนี้ก็ยังจำหน่ายได้เรื่อย ๆ ยังไม่หมด ก็ยังมีเวลาจำหน่ายได้เป็นปี ยังไม่หมดอายุ หลังจากตนเข้ามารับตำแหน่งเห็นปริมาณที่คงอยู่ตรงนี้ก็ขอความร่วมมือ ถ้าเผื่อจะมีการใช้เพิ่มเติมอย่างไรก็ขอให้ช่วยพิจารณาผลิตภัณฑ์ตรงนี้ด้วย เมื่อถามว่า มีข่าวว่า คุณภาพน้ำเกลือบางลอตที่ส่งให้กับ รพ.บางส่วนมีปัญหา ผอ.อภ. กล่าวว่า  ก็มีบ้าง แต่ลอตไหนที่ผิดปกติ อภ. จะเรียกคืน ตอนนี้ลอต ที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะของบริษัทที่มีปัญหามากกว่าบริษัทอื่น ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพ 100% ยังไม่ได้จำหน่ายออกไป อย่างไรก็ตาม ได้ขอมติบอร์ด อภ. ไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าจะจำหน่ายราคาที่ต่ำกว่าราคาต้นทุนที่ซื้อเข้ามา

"เท่าที่ดูข้อมูลย้อนหลังมีการเรียกคืน น้ำเกลือจากบางบริษัทเพิ่มขึ้นหลายลอต เข้าใจว่ามูลค่าเยอะพอสมควร ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ทางกายภาพและวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการเพื่อประกันคุณภาพ" นพ.สุวัช กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารพัสดุฯ อภ. ได้ทำหนังสือถึง ภญ.นิภาพร ชาตะวิริยพันธุ์ รอง ผอ.อภ. เพื่อขออนุมัติระงับการจ่ายน้ำเกลือทุกประเภทจากบริษัทแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า ตามที่ อภ. ได้รับเรื่องร้องเรียนด้านคุณภาพจากลูกค้าหลายรายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ อภ. นำเข้าจากบริษัทแห่งหนึ่ง พบว่า วันที่ 10 ต.ค. 2555 รพ.นครพิงค์ตรวจพบเส้นใยสีดำคล้ายราในขวดน้ำเกลือ วันที่ 1 มี.ค. 2556 รพ.สุโขทัย พบรอยรั่วซึม และตะกอนสีดำ วันที่ 10 เม.ย. 2556 รพ.พระจอม เกล้า พบตะกอนคล้ายวุ้นสีขาว และตะกอนสีดำ วันที่ 10 เม.ย. 2556 รพ.หัวหินพบตะกอนสีดำคล้ายวุ้นสีขาว วันที่ 15 พ.ค. 2556 รพ.ชลบุรี พบเปลี่ยนสีมีตะกอนเป็นวุ้นสีน้ำตาล วันที่ 19 มิ.ย. 2556 รพ.เพชรบูรณ์ พบตะกอนสีดำ วันที่ 10 ก.ค. 2556 รพ.ธรรมศาสตร์ฯ พบรอยรั่วซึมที่ขวด 1,000 มล. จนมีน้ำยาเหลือในขวดเพียง 100 มล. อย่างไรก็ตาม ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2556 ผลการตรวจคุณภาพจากกองมาตรฐานฯ แจ้งผลการวิเคราะห์ฯ พบผลิตภัณฑ์จากบริษัทดังกล่าวบางลอต เช่น D-5-w 100 ml ลอตที่ 1L20961 ไม่ผ่านมาตรฐานทางเคมี

หนังสือระบุด้วยว่า  จากปัญหาที่พบด้านคุณภาพบ่อยครั้ง จึงไม่อาจมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากบริษัทได้ ฝ่ายบริหารพัสดุฯ เห็นควรระงับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากบริษัททุกประเภทไปก่อนจนกว่า อภ. จะมีมาตรการอย่างอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อแสดงความรับผิด ชอบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของ อภ.

ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 พ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--