ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือจากผู้แทนพยาบาลวิชาชีพ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดตามเรื่องการจัดสรรตำแหน่งข้าราชการ หลังจากที่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพรอบแรกไปแล้วจำนวน 3,563 อัตรา จากทั้งหมด 7,547 ตำแหน่ง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจัดสรรตำแหน่งข้าราชการให้พยาบาลลูกจ้างที่เหลืออีก 9,134 คน โดยขอให้แบ่งจัดสรรครั้งละ 4,571 อัตรา และเรื่องความก้าวหน้าของวิชาชีพพยาบาล ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการบรรจุให้ โดยจะใช้ตำแหน่งว่างของกระทรวงสาธารณสุขที่มีขณะนี้ประมาณ 1,300 อัตรา บรรจุพยาบาลประมาณ 800 อัตราก่อน และกลุ่มที่ 2 คือพยาบาลวิชาชีพที่ต้องการให้กระทรวงสารณสุขผลักดันเรื่องความก้าวหน้า โดยขอให้มีการเลื่อนไหลของตำแหน่งพยาบาลจากชำนาญการ เป็นระดับเป็นชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างการพิจารณาประมาณ 1,200 ตำแหน่งแล้ว

ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวได้ติดตาม 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ต้องการให้จัดสรรตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนพยาบาล โดยเฉพาะจำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับร้อยละ 75 จะหาวิธีการดำเนินการต่อไป ประเด็นที่ 2 เรื่องการบริหารการบรรจุโดยเฉพาะหลักเกณฑ์ ทางพยาบาลมีความเชื่อมั่นในเกณฑ์กลางและอยากให้ส่วนกลางดำเนินการ แต่ด้วยนโยบายกระจายอำนาจไปที่เขต จังหวัดและหน่วยบริการ ส่วนกลางจะจัดระบบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เกิดความโปร่งใสหรือมีธรรมาภิบาล โดยมีระบบให้อุทธรณ์หรือร้องทุกข์ได้

สำหรับการเกลี่ยตำแหน่งในแต่ละวิชาชีพเมื่อพยาบาลขอจัดสรรร้อยละ 75 ของจำนวนอัตราข้าราชการที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมดนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการหลายวิธี วิธีแรกคือการใช้ตำแหน่งว่างที่กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมได้ทั้งหมด 1,300 อัตรา ได้เกลี่ยให้พยาบาล 806 อัตรา และจะกระจายให้วิชาชีพอื่นๆ โดยจะดำเนินการบรรจุให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน และเร่งดำเนินการเรื่องการขอจัดสรรตำแหน่งข้าราชการตามนโยบายของรัฐบาลที่จัดให้กระทรวงสาธารณสุข 22,500 อัตราใน 20 กว่าสายวิชาชีพปีละ 7,500 กว่าตำแหน่งใน 3 ปี ซึ่งขณะนี้ได้รับการจัดสรรรอบแรกแล้ว จะดำเนินการขอรอบ 2 อีก 7,500 กว่าตำแหน่ง เพื่อดำเนินการบรรจุภายในเดือนมกราคม 2557

รวมทั้งดูแลเรื่องลดความเหลื่อมล้ำในการบรรจุระหว่างวิชาชีพ จะพยายามหาวิธีการปรับให้ทุกวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวได้บรรจุเป็นข้าราชการใกล้เคียงกัน โดยจะพิจารณาจากปีที่เริ่มเป็นลูกจ้างชั่วคราวก่อนก็น่าจะได้รับสิทธิก่อน แต่มีเงื่อนไขต่อเนื่อง 2 ประการ คือ1.ทำงานดี 2.อาสาที่จะไปทำงานในจุดที่เป็นเงื่อนไขตามที่ครม.กำหนดด้วย เช่นในพื้นที่ห่างไกล รพสต. รพช.เกิดใหม่ รพช.ที่ฐานะการเงินไม่ดี หากจบมาก่อนแต่ไม่พร้อมที่จะไปบรรจุในพื้นที่เหล่านั้นก็อาจจะต้องรอในปีต่อไป

ส่วนเรื่องการพิจารณานักเรียนพยาบาลสังกัดสถาบันพระบรมราชชนกให้กลับไปเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลนั้น ต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากทุกวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยเฉพาะวิชาชีพที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมสูงอายุที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาสู่สังคมไทย ความต้องการด้านสุขภาพก็น่าจะสูงขึ้น จะต้องวางแผนกำลังคนในระยะยาวว่า จะให้ทุนในวิชาชีพใด แหล่งผลิตในมหาวิทยาลัยใด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดว่าอยากผลิตเอง ใช้เอง ต้องดูในแผนระยะยาว จึงยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้

“นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงเรื่องความก้าวหน้าของวิชาชีพพยาบาล ได้มอบนโยบายที่จะเพิ่มตำแหน่งชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญให้มากขึ้น ได้สั่งการให้เร่งรัดการดำเนินการให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น และหารือกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. เรื่องการประเมินการเข้าสู่ตำแหน่งอย่างมีคุณค่า และง่ายกว่าเดิม” นายแพทย์วชิระกล่าว