ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองปลัดสธ.ยืนยันไม่มีการกักน้ำเหลือไว้ในคลัง หากจำเป็นสามารเบิกได้ทันที อภ.สนับสนุนน้ำเกลือ จำนวน 5,000 ขวด พร้อม ผงถ่านคาร์บอนด์ 2,000 กล่อง และยาหยอดตา อีก 2,000 ขวด ให้กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข  ที่โรงพยาบาลสงฆ์แล้ว      

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ไม่ได้มีการกักน้ำเกลือไว้ที่ส่วนกลาง หรือเก็บไว้ในคลังเพียงอย่างเดียวแน่นอน เพราะในการประชุมวอร์รูมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็เพิ่งหารือกับ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ว่าจะนำน้ำเกลือลงไปช่วยในการชุมนุม โดยได้มีการนำน้ำเกลือส่วนหนึ่งขนย้ายเข้าไปในพื้นที่ด้วย และทางหน่วยกู้ชีพหรือแพทย์สนาม หากมีความจำเป็นต้องใช้ก็สามารถเบิกออกไปช่วยได้ทันที ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าคำสั่งห้ามใช้น้ำเกลือนั้นเป็นข่าวออกมาได้อย่างไร

นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า อภ. ได้สนับสนุนน้ำเกลือ จำนวน 5,000 ขวด ให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการใช้รักษาเบื้องต้นทางการแพทย์ เพื่อบรรเทาพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะ รองรับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง โดยส่งไปเมื่อ 1 ธ.ค.56จำนวน 2,500 ขวด และได้ส่งเพิ่มเติมในวันนี้อีก 2,500 ชวด พร้อม ผงถ่านคาร์บอนด์ (activated charcoal) ขับของเสีย จำนวน 2,000 กล่อง  ขนาด  50 กรัม  และยาหยอดตา(Tetracaine Eye Drop) อีก จำนวน  2,000 ขวด 

หากหน่วยให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม ได้แก่ หน่วยแพทย์เอราวัณ สนามม้านางเลิ้ง กระทรวงการคลัง ศูนย์ราชการ และราชดำเนิน มีความประสงค์จะที่ขอรับการสนับสนุนให้ติดต่อได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์  โทรศัพท์หมายเลข 02 – 354 5238  และ 02 – 354  4307การสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ นั้น องค์การฯยึดตามหลักจริยธรรมทางการแพทย์ และพร้อมจัดส่งเพิ่มเติมให้ทันทีเมื่อศูนย์ฯมีการร้องขอเข้ามา เป็นไปตามการใช้ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์แล

ผู้อำนวยการอภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากแก็สน้ำตานั้น ให้หลีกเลี่ยง และออกจากสถานที่ที่มีแก็สน้ำตา  ให้ไปอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีลมพัดให้สารเคมีนั้นกระจายออกไป ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก และใส่ไว้ในถุงที่ปิดมิดชิด ร่างกายที่โดนแก็สน้ำตาตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด โดยพยายามอย่าให้ผ้าเปียกเพราะสารเคมีจะละลายติดตามร่างกายได้ ในกรณีที่สารเคมีเข้าตาอาจจะใช้น้ำเกลือเจือจางล้างออก ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

จากนั้นให้รีบไปติดต่อขอรับบริการทางการแพทย์ได้ที่หน่วยแพทย์ ส่วนผู้ที่สัมผัสแก็สน้ำตาเข้าทางปากให้ใช้ผงถ่านคาร์บอนด์ 1 กล่อง ละลายน้ำแล้วดื่มเข้าไปในทันที เพื่อใช้ดูดซับของเสียที่เข้าไปในร่างกาย ส่วนยาหยอดตาเป็นยาชาใช้เฉพาะที่ใช้สำหรับลดอาการแสบและระคายเคืองในเบื้องต้น ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้จะต้องอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของหน่วยแพทย์ฉุกเฉินและหน่วยแพทย์กู้ชีพเท่านั้น