ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ห่วงคนไทยเสพติดข่าวชุมนุมทำสมองสำลักข้อมูล ชี้ประสาทอาจลัดวงจรกระตุ้นเหนื่อยเครียดรุมเร้าเตือนกลุ่มมีโรคประจำตัวเสี่ยงหัวใจวายเส้นเลือดแตก สร้างนิสัยมองโลกในแง่ลบ แนะพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายขจัดความเครียด

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.56 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ บางรายดูข้อมูลบนมือถือตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอน ทำกิจวัตรประจำวัน แม้ขณะหลับก็ยังเปิดอุปกรณ์สื่อสารทิ้งไว้เพื่อรับข้อมูลเข้ามาการเสพข้อมูลอย่างหนักเช่นนี้จะทำให้สมองทำงานต่อเนื่องตลอดเวลาและข้อมูลที่มากเกินมีผลทำให้สมองสำลักข้อมูลได้ เนื่องจากสมองมีข้อจำกัดในการดูดซับและจัดเก็บข้อมูลหากข้อมูลไหลเข้าสมองต่อเนื่องจะเกิดปัญหาล้นเกิน เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียด และเกิดการลัดวงจรของระบบประสาท ในที่สุดจะเสียสมดุลในการจัดการข้อมูล แม้ในเวลาหลับสมองอาจจะยังพยายามจัดการข้อมูลที่ยังค้างติดอยู่

"ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เกิดความเหนื่อยล้า นอนไม่หลับ ปวดมึนศีรษะ มีอาการปั่นป่วนมวนท้อง คลื่นไส้ ผู้ที่ต้องระมัดระวังคือผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง จะทำให้เกิดภาวะหัวใจทำงานหนัก เสี่ยงหัวใจวายความดันโลหิตสูงขึ้น เสี่ยงเส้นเลือดแตกกระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากขึ้นเสี่ยงเกิดโรคกระเพาะอาหาร และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เช่น หอบหืด อาจทำให้เกิดการเกร็งของทางเดินหายใจ หายใจไม่ออก อาการแย่ลงได้ จึงต้องระมัดระวัง"

พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า ที่น่าห่วงคือการรับข้อมูลไม่เพียงแต่มากเกินไป ยังเป็นการรับข้อมูลที่ขาดการกลั่นกรองข้อเท็จจริงด้วย อาจจะเป็นการซ้ำเติมให้เกิดความเครียด หากเสพไปนานๆอาจทำให้กลายเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ลบการป้องกันข้อมูลล้นสมองขอให้ประชาชนจัดแบ่งเวลาในการรับข้อมูลที่พอประมาณหลีกเลี่ยงการสนทนาการเมือง แบ่งเวลาในการทำกิจกรรมอื่น ทั้งหน้าที่งานประจำพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ชีวิตเกิดความสมดุล ควรจัดเวลาออกกำลังกายด้วยอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า30 นาที เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข หรือสารเอนดอร์ฟิน (endorphine) สามารถขจัดความเครียดได้ตามธรรมชาติ ช่วยให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 9 ธันวาคม 2556