ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รอบปี 2556 ที่ผ่านมา ปลัด สธ.เผย สามารถดำเนินการตามเป้าหมายของกระทรวงได้มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายหลายประการ ทั้งเรื่องยาเสพติด การพัฒนาสุขภาพ บูรณาการ 3 กองทุน ฯลฯ ชี้ การทำงานหนักและทุ่มเทของบุคลากร สธ. ทำให้มีผลงานโดดเด่น

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลงานของกระทรวงในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ว่า มีเรื่องดีๆ ที่สาธารณสุขทำให้เกิดขึ้นจำนวนมากมาย ทั้งเปิดเผยรับรู้ทางสาธารณะ และเป็นที่รับรู้ในเฉพาะส่วน แต่ทั้งหมดล้วนมาจากการทำงานอย่างหนักของคนในกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการกำหนดให้การแก้ไข และป้องกันปัญหายาเสพติด เป็น "วาระแห่งชาติ" นำผู้เสพและผู้ติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดและฟื้นฟู และสามารถบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติดยา และสารเสพติด ทั้งประเทศรวมทั้งสิ้น 434,131 คน จากเป้าที่ตั้งไว้ 3 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 144.71 ถือว่าเกินเป้าหมาย

"ด้านการพัฒนาระบบประกันสุขภาพ มีการดำเนินการงานจนเป็นที่น่าพอใจ ปัจจุบันประชาชนไทยมีหลักประกันสุขภาพ จำนวน 64.8099 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 99.90 ของประชากรผู้มีสิทธิทั้งประเทศ 64.8759 ล้านคน โดยได้บูรณาการสิทธิประโยชน์ของระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง 3 ระบบ ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตได้รับการรักษาทุกโรงพยาบาลโดยไม่ต้องถามสิทธิเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เพิ่มคุณภาพของระบบบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมทั้งบูรณาการสิทธิลดความเหลื่อมล้ำ 3 กองทุน ภายใต้โครงการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ถึงชีวิต ไม่ถามสิทธิ์ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น"

โดยมีการบูรณาการระบบส่งต่อระบบปกติและระบบส่งต่อตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินคู่ขนาน 2 ระบบสามารถช่วยชีวิตประชาชนได้ ร้อยละ 94.17 และดำเนินนโยบายฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์โดยออกบัตรประกันสุขภาพแม่และเด็ก (Health Card for Mother and Child) สำหรับแม่หรือหญิงตั้งครรภ์ และเด็กแรกคลอดจนถึงอายุ 7 ปีบริบูรณ์ เฉพาะคนไทย หรือการให้บริการกลุ่มเฉพาะ ได้แก่ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ที่มีผู้ลงทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 352,956 ราย ได้รับการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์อย่างต่อเนื่อง จำนวน169,792 คน คิดเป็นร้อยละ 97.35 จากเป้าหมาย 174,000 คน จากเดิมเมื่อปี 2553 เข้าถึงเพียงร้อยละ 59 และลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากปีละ 10,853 คนในปี พ.ศ.2553 เหลือเพียง 8,959 คน ในปี 2556 และยังได้ดูแลไปถึงสุขภาพคนต่างด้าวที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และผู้ติดตามทั้งหมด รวมทั้งสุขภาพอนามัยของแม่และเด็ก โดยมีบัตรสุขภาพ (Health card) เพื่อการดูแลด้านสุขอนามัย การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับสองกลุ่มเป้าหมาย คือ บัตรประกันสุขภาพคนต่างด้าว ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และผู้ติดตามทั้งหมดอีกด้วย

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังให้ความสำคัญกับการผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขให้มีความพอเพียงและกระจายไปในชนบทโดยได้บรรจุลูกจ้างชั่วคราวในกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 21 สายวิชาชีพ ให้เป็นข้าราชการ ในปี 2556 จำนวน 7,547 อัตรา และคาดว่าภายใน 3 ปี จะบรรจุได้ครบจำนวน 22,641 อัตรา คิดเป็นร้อยละ 75 ของลูกจ้างทั้งหมด 30,188 คน โดยใช้เงิน 1,100 ล้านบาท

ส่วนของงานพัฒนาสุขภาพตามกลุ่มวัย กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญทุกส่วน อาทิ วัยทำงาน มีการป้องกันโรคมะเร็งที่สำคัญของสตรี ได้แก่ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 76 จังหวัด หรือการดูแลและเฝ้าระวังสตรีไทยจากมะเร็งเต้านม ส่วนการเจริญเติบโตของเด็ก พบเด็กอ้วน ร้อยละ 6.7 เด็กเตี้ย ร้อยละ 9.1 หรือการจัดตั้งคลินิกวัยรุ่น:Psychosocial Clinic ใน รพช. 632 แห่ง

สำหรับผู้สูงอายุได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในพื้นที่เครือข่ายบริการ ใน Psychosocial Clinic พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ดูแลกลางวัน (Day care) ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 91 แห่งรวมถึงนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ในสถานพยาบาลแล้ว 28 จังหวัด

นพ.ณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ใน 1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขยังได้พัฒนาคุณภาพหน่วยบริการและเครือข่าย เพื่อพัฒนาคุณภาพของสถานพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคสำคัญ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ลดภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ในสาขาต่างๆที่สำคัญ ได้แก่ 1.การพัฒนาการดูแลในโรคมะเร็ง 2.การบริการระบบฉุกเฉิน และ อุบัติเหตุ 3.การพัฒนาบริการใน รพช.ขนาดใหญ่ และกลาง ให้สามารถผ่าตัดโรคไส้ติ่ง และผ่าตัดคลอดได้โดยผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังโรงพยาบาลในจังหวัด 4.การบริการในโรคตา ได้กำหนดให้มีศูนย์โรคตา ระดับ 1 ให้ครบทั้ง 12 เขตสุขภาพ 5.การบริการผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตในสิทธิ 6.การดูแลทารกแรกเกิด 7.การดูแลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

"ในปี 2557 กระทรวงสาธารณสุขจะยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อสานต่อการดำเนินการในปี 2556 อย่างต่อเนื่อง ถือได้ว่าช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 จะเป็นช่วงการทำงานหนักและพัฒนาควบคู่กันไปของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขทุกภาคส่วน และถือว่า ปี 2556 การทำงานประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะทุกคนให้ความร่วมมือและทำงานอย่างทุ่มเท"

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 4 มกราคม 2557