ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมหน่วยงานในสังกัดและผู้เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อม รับมือสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ทั่วกรุงเทพมหานคร ใน 13 มกราคมนี้ ตั้งจุดบริการดูแลผู้ชุมนุม และจัดทีมกู้ชีพชั้นสูง พร้อมเสริมทีมอีก 18 จังหวัดหากจำเป็น และเตรียมความพร้อมรพ.ในสังกัดกรมการแพทย์ และปริมณฑล 8 แห่ง ให้สำรองเตียงผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู. คลังเลือดทุกหมู่ ออกซิเจน
วันนี้ (9 มกราคม 2557) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลในสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรับมือด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ในการชุมนุมใหญ่ทั่วกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 มกราคม นี้ โดยได้วางแผนการทำงานเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือการดูแลสุขภาพผู้ชุมนุมซึ่งอาจจะมีการเจ็บป่วยเล็กๆน้อย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ โรคประจำตัว กทม.ได้วางแผนตั้งจุดบริการ 26 จุด โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายดูแล ได้แก่ ถนนสีลม แยกราชเทวี ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกพญาไท แยกดินแดง และห้าแยกลาดพร้าว มีโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ดูแล ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.เด็ก รพ.สงฆ์ สถาบันประสาทวิทยา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันโรคทรวงอก และสถาบันธัญญารักษ์ ซึ่งจะมีการประสานการทำงานร่วมกับ รพ.เอกชน ในสังกัดอื่นๆ รวมทั้งแพทย์อาสาสมัครกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ส่วนที่ 2 แผนการรักษาพยาบาลในภาวะฉุกเฉิน กรมการแพทย์ ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร กำหนดให้รับผิดชอบพื้นที่ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้วางแผนไว้ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ส่วนปฏิบัติการทีมกู้ชีพเพื่อดำเนินการตามแผนเอราวัณ 2 เตรียมไว้ ประกอบด้วยทีมของรพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี และจากรพ.ในภูมิภาค 5 โดยให้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้อีก 18 จังหวัดเตรียมทีมในที่ตั้งพร้อมปฏิบัติเมื่อมีคำสั่งการ การปฏิบัติงานจะร่วมกันระหว่างทีมกู้ชีพขั้นสูง กับทีมกู้ชีพขั้นพื้นฐานของมูลนิธิฯ โดยตั้งศูนย์ประสานงานส่วนหน้าฯ ที่ รพ.สงฆ์ มีการดำเนินการร่วมกับศูนย์เอราวัณ สภากาชาดไทย มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยมีศูนย์วิทยุกู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี เป็นศูนย์สื่อสารสั่งการฯ
นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ที่อยู่ในกทม. ให้เตรียมบุคลากร เครื่องมือแพทย์ สำรองเตียงสามัญ เตียงไอซียู ห้องผ่าตัด เลือดทุกหมู่ และออกซิเจนในกรณีที่ไม่สามารถส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปตามโรงพยาบาลในกทม.ได้ ให้โรงพยาบาล 8 แห่งรอบกทม. ได้แก่ รพ.ปทุมธานี รพ.สมุทรปราการ รพ.พุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา รพ.ชลบุรี รพ.พระนครศรีอยุธยา รพ.สระบุรี รพ.นครปฐม และรพ.สมุทรสาคร เตรียมรับผู้ป่วยฉุกเฉิน และได้ประสานงานเตรียมเส้นทางในการรับส่งผู้ป่วยทางรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยใช้ทางด่วน และการประสานเตรียมการสำรองระบบขนส่งผู้ป่วยทางอากาศด้วย
ทางด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยปกติทั่วไป ที่จะไปใช้บริการในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทั้งหมดที่อยู่ในกทม. ให้โรงพยาบาลรอบ กทม. ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เด็ก รพ.สงฆ์ สถาบันประสาทวิทยา และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ได้เตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว 2 สัปดาห์ โดยได้ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมารับยาก่อนวันนัดแล้ว ในกรณีที่เดินทางมาไม่ได้ ให้โทรศัพท์ประสานสายด่วนทางการแพทย์ 3 หมายเลข ได้แก่ ศูนย์เอราวัณ หมายเลข 1646 , ศูนย์กู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี 1669 และ 02-354-8222 เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเต็มที่
