ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ข่าวสด - วันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีอาจารย์แพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรีด้วยถ้อยคำหยาบคาย เหยียดหยาม บนเวทีสี่แยกปทุมวัน ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากขณะนี้ว่า "ได้มีบุคลากรทางการแพทย์ระดับอาจารย์แพทย์ขึ้นไปพูดบนเวที กปปส. ณ แยกปทุมวันพาดพิงนายกรัฐมนตรีใช้คำพูดหยาบคายนั้น ผมในฐานะบุคลากรในวิชาชีพแพทย์คนหนึ่ง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีคนในวิชาชีพเดียวกันนี้ พูดในสิ่งที่น่าละอายและน่าอดสู ไม่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ และนึกไม่ออกจริงๆ ว่าในความเป็นลูกผู้ชายจะกล้าพูดถึงเพศแม่ตัวเองได้ขนาดนี้"

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(สพศท.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เชื่อว่าเป็นการพูดด้วยอารมณ์ แต่กลับทำให้คนฟังระคายความรู้สึกมาก การพูดจาเช่นนี้ ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันก็รู้สึกไม่ดี หากบอกว่าพูดโดยส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะแพทย์ ก็ไม่ควรพูดลักษณะนี้

"เตือนในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการต่อว่าอะไร แค่อยากบอกว่าเป็นเรื่องของมารยาท อยากบอกว่าจะวิจารณ์การทำงานรัฐบาล ทำไปเลย ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ให้เกียรติในการพูด ยิ่งมีความเป็นแพทย์อยู่ด้วย" พญ.ประชุมพรกล่าว

ขณะที่นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่งหนังสือถึงคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยในหนังสือระบุว่า มีความสงสัยในพฤติกรรมของบุคลากรในคณะแพทย์ ซึ่งตนให้ความศรัทธา เนื่องจากมีความเสียสละ ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส แต่วันนี้ไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว เพราะรับไม่ได้กับคำพูดที่ทำลายเกียรติและลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ย่ำยีสิทธิสตรี ตนไม่ได้ปกป้องยิ่งลักษณ์ แต่ต้องออกมาพูดเพราะรับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว

"น่าเสียดายที่คนที่มีอาชีพช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างท่านกลับมีปัญหาในการมองเพื่อนมนุษย์ด้วยเกียรติและศักดิ์ ท่านไม่ให้เกียรติน.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนักการเมือง แต่โปรดให้เกียรติความเป็นมนุษย์ของเธอและท่านอย่างเท่าเทียมกันด้วย โปรดทบทวนคำพูดของท่านและขอโทษต่อสตรีเพศในประเทศนี้ด้วยเถอะ" นายซากีย์ กล่าว

ด้านภัควดี วีระภาสพงษ์ นักวิชาการ ได้เขียนจดหมาย 3 ฉบับ ถึง กปปส. แพทยสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน โดยฉบับแรกระบุว่า ให้แพทยสภา และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตรวจสอบพฤติกรรมของนายแพทย์คนหนึ่งซึ่งขึ้นปราศรัยบนเวทีม็อบ ว่ามีความเหมาะสมต่อวิชาชีพหรือไม่ ที่แสดงความเกลียดชังต่อตัวบุคคลโดยหยิบยกแต่เรื่องเพศขึ้นมา ฉบับที่ 2 ระบุว่า ให้ กปปส.และผู้สนับสนุน ปรับปรุงการปราศรัยและการคัดเลือกผู้ปราศรัยบนเวที และฉบับสุดท้ายที่ส่งให้คณะกรรมการสิทธิฯ ระบุว่า ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากทราบว่าพวกท่านมิได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนของประชาชนไทยอย่างเสมอหน้ากัน

ที่มา--ข่าวสด ฉบับวันที่ 17 ม.ค. 2557 (กรอบบ่าย)--