ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ร่วมกับคณาจารย์มหาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนการเลือกตั้ง หยุดการยั่วยุ ปลุกปั่นความรุนแรง ประณามผู้ก่อเหตุรุนแรง ขอให้ยกเลิกการใช้สัญลักษณ์ทางการแพทย์แสดงความเห็นทางการเมือง

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ณ จ.เชียงใหม่ กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวร่วมกับกลุ่มคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันดังนี้

แถลงการณ์ฉบับที่สอง กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย

กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และบุคลากรด้านสาธารณสุขด้านอื่นๆ ซึ่งมีสมาชิกปัจจุบันทั่วประเทศกว่า 700 คน ร่วมกับกลุ่มคณาจารย์จากม.เชียงใหม่ มีแถลงการณ์ต่อความขัดแย้งในปัจจุบัน ดังนี้

1. ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น ทั้งต่อทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิต และขอประณามผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงโดยเฉพาะที่มุ่งหมายต่อชีวิต ไม่ว่าจากการกระทำของฝ่ายใด

2. เพื่อลดความขัดแย้ง ทุกฝ่ายควรลดอคติ ลดทิฐิ หยุดการยั่วยุ ปลุกปั่น การใช้ความรุนแรง ทั้งทางวาจา และการใช้กำลัง และขอให้ประชาชนมีความยับยั้งชั่งใจ รับฟังข้อมูลข่าวสาร ที่มาจากแหล่งต่างๆ รวมทั้ง โซเชียลเนตเวิร์ค ทางโทรศัพท์มือถือหรือทางไลน์ โดยพินิจพิเคราะห์ ไม่ตกเป็นเครื่องมือไปสู่ความเกลียดชัง และความรุนแรง

3. เรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การปิดถนน การปิดล้อมสถานที่ราชการ การทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เพราะอาจเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ซึ่งจำเป็นต้องรักษากฎหมายและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

4.ขอสนับสนุนข้าราชการให้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 74 และตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนมาตรา 82 ที่ให้ข้าราชการปฏิบัติตามคำสั่งตามกฎหมายของผู้บังคับบัญชา และเป็นกลางทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนมีที่พึ่งและมีขวัญกำลังใจ

5. ควรหลีกเลี่ยงการอ้างสถาบันทางการแพทย์หรือใช้สัญลักษณ์ทางการแพทย์เพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เช่น เสื้อกาวน์ เครื่องหมายกาชาด เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งองค์กรจะมีความคิดเห็นทางการเมืองไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อไม่ละเมิดสิทธิบุคคลอื่นที่เห็นต่าง และเพื่อความเป็นกลางเพราะผู้ป่วยทุกคนต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

6. ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ห้ามมิให้บุคคลใดเรียกร้อง หรือกระทำการใดเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้แก่ รัฐบาลหรือรัฐสภาที่มาจากการแต่งตั้ง หรือการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 7. แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 24 มกราคมนี้ ให้สามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่ระบุไว้ว่าต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วันหลังจากมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา และศาลรัฐธรรมนูญก็มิได้วินิจฉัยว่าต้องเลื่อนการเลือกตั้ง จึงให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และนำประเทศกลับสู่ความสงบ

กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย

26 มกราคม 2557