ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คมชัดลึก - ในช่วงเทศกาลตรุษจีนทุกปี ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะมีการเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ ถือเป็นเทศกาลมงคลที่ยิ่งใหญ่เพราะเชื่อว่าจะเกิดสิ่งดีๆ ขึ้นในชีวิต โดยธรรมเนียมจะต้องมีของเครื่องไหว้หลัก คือ เนื้อสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่ เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก หมู และผลไม้มงคลต่างๆ เช่น ส้มสีทอง สาลี่ แอปเปิ้ล องุ่น กล้วย แก้วมังกร รวมถึงขนมมงคลต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ ขนมแห้งจันอับ ถั่วตัด ข้าวพอง ขนมโก๋ และซิ่วท้อ

ภายหลังจากการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษแล้วก็จะนำของไหว้เหล่านั้นมารับประทานเพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล  ดังนั้นจึงขอแนะนำวิธีการรับประทานอาหารมงคลในเทศกาลตรุษจีนให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ ควรรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เน้นรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันหรือไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อปลา เนื้อกุ้ง ปลาหมึก เพราะจะช่วยเพิ่มไขมันดี และลดไขมันเลวได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องในสัตว์เพราะมียูริกสูง ทั้งนี้ ควรปรุงอาหารด้วยหลักการลดหวาน มัน เค็ม เพราะอาหารตรุษจีนมักเป็นแบบคั่วเกลือหรือผัดมันๆ

เทคนิคง่ายๆ คือคั่วหรือผัดด้วยน้ำมันน้อยๆ โดยใช้สมุนไพรลดไขมันอย่าง ขิง กระเทียม ขึ้นฉ่าย และก่อนการปรุงอาหาร ต้องล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุกครั้ง สำหรับขนมไหว้ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบควรเพิ่มถั่วและธัญพืช เพราะมีส่วนช่วยในการล้างพิษจากแป้งและความหวาน ซึ่งขนมสุขภาพที่ควรเลือกได้แก่ ขนมไส้ถั่วทั้งหลาย ขนมตุ๊บตั๊บ ขนมเปี๊ยะ คอเป็ดงาดำ ขนมเทียนไส้เค็ม

ส่วนขนมเข่งวิธีกินให้สุขภาพดี คือ ไม่ควรเอาไปทอดเพิ่มน้ำมัน ที่สำคัญควรรับประทานผลไม้ร่วมด้วย เช่น ส้มที่มีวิตามินเพิ่มคอลลาเจนและเส้นใย ลดไขมัน แอปเปิ้ล หรือกล้วยหอมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมมงคลสุขภาพรับตรุษจีนและควรดื่มชาร้อนเป็นตัวช่วยลดการอักเสบและช่วยลดไขมันด้วย

การเลือกซื้ออาหารสำหรับเซ่นไหว้ที่ปลอดภัยโดยเฉพาะเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ เนื้อแน่นสะอาด ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีจ้ำเลือด ไม่มีการทาสีตามตัว ไม่มีกลิ่นเหม็น ต้องปรุงให้สุกก่อนกินด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส ไม่ควรกินแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ สำหรับเนื้อหมูต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง และต้องไม่มีเม็ดสาคู หรือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด เพื่อความปลอดภัยควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้รับรองมาตรฐานว่าถูกสุขอนามัย ผักและผลไม้สดต้องล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง

สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบ หรือฝักมากเกินไปให้ล้างน้ำหลายๆ ครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านผักสดอย่างน้อย 2 นาที หรือใช้สารละลายอื่นๆ ในการล้างหรือแช่นานประมาณ 5 นาที อาทิ 1.ใช้เกลือ 2 ช้อนโต๊ะพูนต่อน้ำ 4 ลิตร 2.ใช้น้ำส้มสายชู (ผสมน้ำส้มสายชู ฝ ถ้วยต่อน้ำ 4 ลิตร) 3. ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร และ 4.ใช้น้ำยาล้างผัก เป็นต้น แล้วจึงนำผักสด มาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก็สามารถลดหรือขจัดพิษต่างๆ ในผักสดออกได้ร้อยละ 80-90

นอกจากนี้ในการกินผักควรใช้วิธีการนึ่ง ลวกก่อนนำมาผัดหรือผ่านความร้อนด้วยเวลาอันสั้น เพื่อไม่ให้อาหารเสียคุณค่าทางอาหาร ส่วนอาหารประเภทหมักดอง เช่น หน่อไม้จีน อาจมีสารฟอกขาวปนเปื้อน ควรนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ รอบเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ อาหารบางชนิดสามารถเก็บไว้กินได้นานโดยไม่บูดเสีย แต่อาหารจำพวกเป็ดไก่จะบูดเสียได้ง่ายกว่าชนิดอื่น วิธีการจัดการกับเป็ด ไก่สามารถนำมาปรุงประกอบเป็นอาหารชนิดต่างๆ ได้ ซึ่งควรปรุงด้วยการต้ม นึ่ง อบแทนการทอดหรือผัด เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน หมูสามชั้น เพื่อไม่ให้รับพลังงานจากอาหารที่สูงเกินไป โดยสามารถเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยการเติมผักและผลไม้ได้ เช่น เมนูสลัดไก่ฉีก ยำเป็ด/ไก่สมุนไพร เป็นต้น

ที่สำคัญขณะประกอบอาหารไม่ควรใช้มือที่เปื้อนมาจับจมูก ตา ปาก และหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเปลือกไข่ที่มูลสัตว์เปื้อน ควรแยกเขียงสำหรับหั่นอาหารที่ปรุงสุกและอาหารดิบ หรือเขียงผักผลไม้ ไม่ใช้เขียงเดียวกัน เพื่อสร้างสุขที่ดีในการประกอบอาหาร

นอกจากนี้ควรระมัดระวังไม่ให้เศษธูปปนเปื้อนลงไปในของไหว้ หรือนำมาล้างก่อนปรุงประกอบอาหาร เพื่อป้องกันสารอันตรายเข้าสู่ร่างกาย

หลังจากการรับประทานของไหว้แล้ว ควรมีกิจกรรมต่างๆ เผาผลาญไขมันออกไปจากร่างกายด้วยการออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรง และดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะไปช่วยชะล้างสารพิษในอาหารที่รับประทานเข้าไป ฉะนั้นการรับประทานอาหารในเทศกาลตรุษจีนอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่กินหวาน มัน เค็ม ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่เป็น มงคลแก่ชีวิตยิ่งขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  วันที่ 30 มกราคม 2557