ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายสาธารณสุข นำโดยปลัดสธ. นายกแพทยสภา ผู้บริหารคณะแพทย์ฯศิริราช เตรียมออกแถลงการณ์ ฉะ นโยบายจำนำข้าว จวกรัฐบาลควรมีสำนึกรับผิดชอบ ยันไม่ใช่ กปปส. แนะกปปส.ควรเข้าสู่การเจรจาจะดีกว่า พร้อมเชิญชวนข้าราชการทั่วประเทศออกมาร่วมส่งเสียง ส่วนบุคลการทางการแพทย์จะให้ความรู้กับประชาชนที่มารักษาพยาบาล โดยเฉพาะปัญหาเรื่องจำนำข้าว ถ้าประชาชนเห็นต่างก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มาคุยและหาทางออกร่วมกัน

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียว่าเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2557 ได้มีการประชุมหารือกันของเครือข่ายสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลศิริราช ประมาณ 50-60 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกแพทยสภา ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราช และแกนนำบุคลากรสาธารณสุขทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ฝ่ายระดับบริหารทางด้านพยาบาล ได้แก่ คณบดีคณะพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้อำนวยการสำนักการ ชมรมผู้บริหารการพยาบาล โรงพยาบาลชุมชน และทีม Leadership for change จากสภาการพยาบาล เป็นต้น และมีข้อสรุปว่าจะมีการออกแถลงการณ์โดยเน้นเรื่องนโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาลรักษาการ พร้อมกับบุคลากรทางการแพทย์จะให้ความรู้กับประชาชนที่มาให้บริการ และเตรียมสร้างเครือข่าย โดยจะไปชักชวนผู้บริหารและบุคลากรหน่วยงานต่างๆ ใน ระดับจังหวัด เช่น มหาดไทย เป็นต้น

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ 

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ สมาชิกประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่มีการประชุมเครือข่ายสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะเป็นคนในทุกวิชาชีพที่เกี่ยวข้องด้านสุขภาพทั้งในกทม.และต่างจังหวัด มาร่วมหารือกันว่าเครือข่ายสาธารณสุข จะดำเนินการต่อไปอย่างไรเพื่อให้สังคมเข้าสู่โหมดของการพัฒนา ปรองดอง ปฏิรูป และหยุดความวุ่นวาย เราเป็นข้าราชการส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้คิดจะหยุดทำหน้าที่ข้าราชการ แต่อยากเป็นข้าราชการที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น แต่ก็เข้าใจว่าเครือข่ายไม่มีอำนาจที่จะไปบังคับใคร เพียงแต่อยากบอกรัฐบาลว่าถ้าเห็นแก่ประชาชนบ้าง เห็นแก่ประเทศบ้างก็ควรจะฟัง เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีชาวนาหลายคนที่ต้องฆ่าตัวตายเพราะปัญหาการรับจำนำข้าว เขาเดือดร้อนขนาดนั้นทั้งที่ไม่มีความผิด คนที่ทำให้เกิดปัญหาน่าจะมีสำนึกความรับผิดชอบว่าได้ทำให้เกิดความร้อนระอุทุกหย่อมหญ้า เบื้องต้นจะมีการออกแถลงการณ์ในนามเครือข่ายสาธารณสุข

ทั้งนี้ทางเครือข่ายสาธารณสุข อยากไปชวนข้าราชการทุกกระทรวง เพราะหลายท่านเห็นด้วยกับเครือข่ายสาธารณสุขแต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะกลัวเรื่องการทำผิดวินัยข้าราชการ แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้ทำผิดวินัยข้าราชการแน่นอน ขณะเดียวกันวินัยข้าราชการก็ไม่ได้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น จึงอยากชวนข้าราชการทุกหมู่เหล่าออกมาแสดงความคิดเห็นบ้าง เพราะรวมๆ กันแล้วมีประมาณ 4-5 ล้านคน ร่วมกับเครือข่ายอีกน่าจะประมาณ 10 ล้านคนก็น่าจะมีเสียง มีน้ำหนักบ้าง อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้ปกครองจะเป็นใครก็ต้องฟังเสียงเราบ้าง นอกจากนี้ยังยืนยันว่าการรวมตัวกันไม่ได้เป็นม็อบข้าราชการ เพราะคำว่าม็อบหมายถึงการก่อการ ซึ่งการรวมตัวของเครือข่ายสาธารณสุขไม่ใช่แบบนั้น เป็นการรวมตัวเพื่อระดมความเห็น และพูดออกมาดังๆ อย่าลืมว่าเราเป็นเครื่องมือของรัฐบาลทุกรัฐบาล เราเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นก็อยากจะแสดงอะไรออกไปบ้าง  

“เราไม่ได้มาเพื่อหาประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น แค่อยากจะส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลและกปปส. เรายืนยันว่าเครือข่ายสาธารณสุขไม่ได้เป็น กปปส. แต่อาจจะมีความคิดที่สอดคล้องกันในบางส่วน แต่ก็อยากบอก กปปส.ว่าจะสามารถเข้าสู่การเจรจาได้หรือไม่ หยุดการชุมนุมได้หรือไม่ เพราะถ้าเข้าสู่โหมดนี้ได้จะทำให้ประเทศลดความเดือดร้อน และเข้าสู่การพัฒนาได้จริงๆ มีการปฏิรูปได้จริงๆ” พญ.ประชุมพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอีกครั้งเกรงว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในวิชาชีพอีกครั้งหรือไม่ พญ.ประชุมพร กล่าวว่า จะถามว่าเป็นความขัดแย้งหรือไม่ คิดว่าคนเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน โดยในส่วนของผู้ที่เห็นต่างกับเราก็รับฟังความคิดเห็นนั้นอยู่แล้ว ไม่ได้ไปทะเลาะเพียงแต่เราอยากบอกให้คนที่มีความกล้าลุกขึ้นมาส่งเสียงพร้อมๆ กัน แต่คนที่ไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นปัญหา คนเราคิดไม่เหมือนกัน คิดต่างเราก็ฟัง เราไม่ทะเลาะ เราแค่อยากจะบอกให้คนที่มีความกล้าลุกออกมาส่งเสียงพร้อมเรา คนที่คิดต่างก็ส่งเสียงได้ และควรออกมาพูดว่าทำไมถึงเห็นไม่ตรงกันคิดอย่างไร มีแนวทางอย่างไรก็อยากฟังหมด เราคือพี่น้องกันหมด อยากเชิญมาร่วมคุยกันด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการคุยกันบ้างเพราะทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่เคยมีการหาแนวทางร่วมกัน

พญ.ประชุมพร กล่าวว่า ในส่วนของการให้ความรู้กับประชาชนนั้นอยู่ระหว่างหารูปแบบวิธีการ แต่โดยหลักแล้วเราจะให้ความรู้กับเขาในเรื่องปัญหาการจำนำข้าว ผลกระทบที่ตามมาทั้งในเรื่องครอบครัว สุขภาพทางกายก็แย่ สุขภาพทางจิตก็แย่ โดยจะเห็นได้จากที่มีชาวนาหลายคนต้องฆ่าตัวตายหนีปัญหาดังกล่าว ในขณะที่การเสนอข่าวการให้ความรู้ของสื่อมวลชนยังไม่ครอบคลุม อย่างไรก็ตามในส่วนของประชาชนที่อาจจะเห็นต่างนั้น เราบอกไปแล้วว่ายินดีรับฟังความคิดเห็นต่างเหล่านั้น  แต่ขอให้มาคุยกัน มาหาทางออกร่วมกัน