ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บ้านเมือง - นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังคงเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรงของโลก จากการสำรวจทั่วโลกพบว่ามีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 8 ล้านคน มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาประมาณ 5 ล้านคน ส่วนอีก 3 ล้านคน ยังไม่เข้าสู่ระบบการรักษา ทั้งนี้ในประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 8 หมื่นคน และในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 11,000-12,000 คน ซึ่งมีผู้ป่วยบางส่วนที่ยังไม่ทราบว่าตนติดเชื้อวัณโรคและบางส่วนที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนดจึงอาจดื้อยา ยากต่อการรักษา และอาจแพร่เชื้อวัณโรคไปสู่ผู้อื่นได้ กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญต่อการป้องกันและเฝ้าระวังวัณโรค จึงได้จัดงาน "กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค" เพื่อประสานความร่วมมือกับสถานพยาบาลภาครัฐ และเอกชนทุกสังกัดในการขับเคลื่อนให้เกิดสัมฤทธิผลของการควบคุมวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานเดียวกัน พร้อมกันนี้ได้มอบโล่เกียรติคุณและประกาศเกียรติบัตรแก่ผู้ปฏิบัติงานของโรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนที่เป็นเครือข่ายดำเนินงานและสนับสนุนการดำเนินงานวัณโรคจำนวน 117 แห่ง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการป้องกันและเฝ้าระวัง ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงของวัณโรคและมีการควบคุมป้องกันโรคอย่างจริงจัง

สำหรับวัณโรคเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรคจำเป็นจะต้องกินยาตามชนิดและขนาดที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง ถูกต้องและครบถ้วนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถสำรวจอาการข้างต้นได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง จากการไอเรื้อรังเป็นระยะเวลานานเกิน 2 สัปดาห์ ไอเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยหรือไอมีเสมหะปนเลือด มีไข้ต่ำ ตอนบ่ายๆ หรือค่ำ มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และมีเหงื่อออกมากผิดปกติตอนกลางคืน และหากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการดังกล่าว สามารถเข้ารับการตรวจรักษาโรคโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร สอบถามเพิ่มเติมที่กองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทร.0-2860-8751-6 ต่อ 504-505

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง  วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557