ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มติชน - เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดพิธีมอบเกียรติบัตรและรางวัลให้แก่เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ที่โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต ทั้งนี้ ในปี 2557 มีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีที่สามารถพัฒนาจนผ่านเกณฑ์ประเมินเป็นต้นแบบเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีระดับยอดเยี่ยม จำนวน 10 เครือข่าย อาทิ เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เครือข่ายบางปะหันแปดเซียนนักเรียนฟันดี จ.พระนครศรีอยุธยา และเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีระดับดีมาก จำนวน 13 เครือข่าย อาทิ เครือข่ายรู้ทัน ฟันงาม อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เครือข่ายเด็กพิมายรักษ์ฟัน จ.นครราชสีมา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ที่ดำเนินการโครงการ สพป.อ่อนหวานสำเร็จ จำนวน 19 แห่ง อาทิ สพป.กระบี่ สพป.กาญจนบุรี เขต 4 สพป.เชียงราย เขต 1, เขต 3, เขต 4 เป็นต้น

ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2557 ว่า จากผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยที่ผ่านมา พบว่าเด็กวัยเรียนยังมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยเฉพาะเด็กอายุ 12 ปี หรืออยู่ในชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 มีฟันผุมากถึงร้อยละ 52 ซึ่งนอกจาก จะสร้างความเจ็บปวด การติดเชื้อ และมีปัญหาการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังส่งผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพ รวมไปถึงผลกระทบต่อการเรียน เพราะทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน

ทพ.สุธากล่าวอีกว่า สาเหตุส่วนหนึ่งของโรคฟันผุเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคขนมกรุบกรอบและน้ำหวาน สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย จึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พัฒนาสุขภาพช่องปากในเด็กวัยเรียน โดยเน้นการดำเนินงานเชิงนโยบายเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อม และจัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยของเด็กในโรงเรียน ภายใต้ 2 โครงการหลัก คือ 1.โครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ที่สร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาการส่งเสริมทันตสุขภาพในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และ 2.โครงการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อ่อนหวาน ที่มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการดำเนินงานทันตสุขภาพ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาดูแลโรงเรียนในสังกัดให้เป็นโรงเรียนที่งดขายและงดให้บริการน้ำอัดลมในโรงเรียน

ปัจจุบันมีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี 400 เครือข่าย 5,746 โรงเรียน ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ และ สพป.อ่อนหวาน 98 แห่ง

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557