ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.สั่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ชุมนุมอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมทีมแพทย์กู้ชีพตลอดเวลา ส่วนในพื้นที่กทม. ยังจัดทีมแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เผยยอดบาดเจ็บเหตุชุมนุม 768 ราย เสียชีวิต 28 ราย ยังนอนพักรักษาตัวในรพ.ต่างๆ 34 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลตราด แพทย์ชนบทเผยรถรพ.สนามสำหรับการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งทั้งประเทศมี 4 คัน ประจำภาคละ 1 คัน ขณะนี้ได้มาประจำที่การชุมนุมของมวลมหาประชาชนแล้ว

วันนี้ (2 มีนาคม 2557) นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ส่วนหน้า) กรณีการชุมนุมทางการเมือง ที่โรงพยาบาลสงฆ์ กทม. ว่า สถานการณ์ของการชุมนุมทางการเมืองทั้งในกทม.และต่างจังหวัดในรอบ 24 ชั่วโมงมานี้  ไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่ม   ในการปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ในส่วนของพื้นที่กทม. ได้ปรับพื้นที่ดูแลผู้ชุมนุม โดยจัดทีมทั้งหมดดูแล 7 ทีม ประกอบด้วยทีมจากโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และทีมจากโรงพยาบาลหนองคาย โรงพยาบาลสุรินทร์ ปฏิบัติงานร่วมกับสภากาชาดไทย และกทม. และสำรองทีมจากโรงพยาบาลในพื้นที่ปริมณฑล  พร้อมเสริมการทำงานเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉิน

สำหรับในส่วนของภูมิภาคที่มีการชุมนุม เช่น ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี นครสวรรค์ และอีกหลายจังหวัด   ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปที่อยู่ในสังกัดฯ ให้เตรียมพร้อมทีมแพทย์กู้ชีพ และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ณรงค์  อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ส่วนหน้า) กรณีการชุมนุมทางการเมือง ที่โรงพยาบาลสงฆ์ กทม. กล่าวว่าข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง ในรอบวัน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเวลา 10.00 น. วันนี้ (2 มีนาคม 2557) ไม่มีผู้บาดเจ็บรายใหม่เพิ่ม ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.56- 2 มี.ค.57 ผู้บาดเจ็บทั้งประเทศ 768 ราย เสียชีวิต 23 ราย ยังคงนอนพักรักษาตัว 34 ราย โดยในพื้นที่กทม. มีผู้บาดเจ็บรวม 725 ราย เสียชีวิต 20 ราย  ยังคงนอนรักษา 25 ราย สำหรับเด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่บิ๊กซี ราชดำริ ขณะนี้ยังนอนรักษาตัว ที่รพ.รามาฯ อาการดีขึ้นมาก แผลแห้ง ตัดไหมแล้ว แผลสะเก็ดระเบิดดีขึ้น

ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด มีบาดเจ็บรวม 43 ราย ในจังหวัดตราด ระยอง และปทุมธานี เสียชีวิต 3 ราย   ขณะนี้ยังนอนพักรักษาตัว 9 ราย  โดยมี 1 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลตราด  อาการสาหัส ต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด  เป็นหญิงอายุ 52 ปี บาดเจ็บที่ช่องท้อง   ทรวงอกและที่ไขสันหลัง   แพทย์ตัดไตทิ้ง 1 ข้างและมีปัญหาเรื่องการหายใจ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในห้องไอซียู  ทีมแพทย์ดูแลรักษาเต็มที่ 

ขณะที่ Facebook/ชมรมแพทย์ชนบท รายงานว่า รถโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครเพื่อทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลสนามประจำการชุมนุมของมวลมหาประชาชนแล้ว โดยระบุว่า

“รถโรงพยาบาลสนามของจริง สำหรับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ขนาด 6 เตียง พร้อมเครื่องปั่นไฟฟ้าในตัวเอง มีแอร์ ระบบสื่อสาร ระบบออกซิเจน 3 ถัง เครื่องมือแพทย์อุปรณ์สำหรับช่วยชีวิตและดูแลบาดแผล ใช้สำหรับกรณีอุบัติเหตุอุบัติภัยขนาดใหญ่ มูลค่ารถและเครื่อมือแพทย์กว่า 10 ล้านบาท ในประเทศไทยมี 4 คัน ภาคละ 1 คัน สำหรับคันของภาคใต้ ประจำที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บัดนี้มุ่งหน้าถึงกรุงเทพแล้ว ทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลสนามประจำการชุมนุมของมวลมหาประชาชนครับ

ภายในรถคันนี้ รถการแพทย์ฉุกเฉิน มีเตียงรวม 6 เตียง สามารถให้การดูแลเบื้องต้นได้ครบวงจร คุณหมอโรจนี เลิศบุญเหรียญ ถึงกับอึ้ง บอกไปว่าน่าจะเอามาใช้นานแล้ว แต่เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับการตั้งประจำจุดมากกว่าการเคลื่อนเร็ว รถ ambulance คันเล็ก ผสานรถโรงพยาบาลสนามคันนี้ บวกกับรถกู้ภัยกู้ชีพ และเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ รวมทั้งโรงพยาบาลที่จะรับส่งต่อ ทำให้ระบบการแพทย์ที่มาดูแลมวลมหาประชาชนมีความสมบูรณ์พร้อมขั้นสูงสุดครับพี่น้อง”

ขอบคุณภาพจาก  Facebook/ชมรมแพทย์ชนบท