ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.พุ่งเป้าผู้ใช้บริการรถทัวร์ จัดเต็มคาราวานประชาสัมพันธ์สายด่วนหลักประกันสุขภาพ 1330 หวังรับรู้ เข้าถึงสิทธิ์ และได้รับการคุ้มครองตามสิทธิ์มากขึ้น ระบุปัจจุบันเปิดบริการถึง 60 คู่สาย พร้อมตอบคำถาม 24 ชั่วโมง
       
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สมบัติทัวร์ ถ.สุคนธสวัสดิ์ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานพิธีเปิดตัวและปล่อยคาราวานรถประชาสัมพันธ์สายด่วน 1330 สปสช. “1330 สายด่วนหลักประกันสุขภาพ สร้างความมั่นใจ ให้บริการประชาชน” ร่วมกับบริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจช่องทางการสื่อสารด้านคุ้มครองสิทธิ์ให้กับประชาชนด้านประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยการติดสติกเกอร์ท้ายรถบัสปรับอากาศชั้น 1 ที่เดินรถทั่วประเทศในพื้นที่เป้าหมายของ สปสช.ได้แก่ สายเหนือ เชียงของ เชียงแสน เชียงราย แม่ฮ่องสอน ทุ่งช้าง สายอีสาน ศรีเชียงใหม่ สุรินทร์ สายใต้ ระนอง เกาะสมุย ทุ่งสง จำนวน 50 คัน ตั้งแต่ระยะเวลา 1 มี.ค.-31 ก.ค.
       
นพ.วินัย กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สปสช.คือการทำให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ยากไร้ ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ และจากการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 2557 นี้ เป็นปีที่ 12 ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับจากประชาชน เห็นได้จากการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สูงถึงร้อยละ 84.3 ซึ่งจัดทำโดยสำนักเอแบคโพลล์ แต่ยังได้รับการชื่นชมจากองค์กรระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก องค์การอนามัยโลกและนานาประเทศ ที่ต่างยกให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบของการจัดระบบหลักประกันสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ทำให้คนทั้งประเทศเข้าถึงการรักษาภายใต้งบประมาณที่จำกัด
       
ทั้งนี้ ช่องทางสำคัญในการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการสื่อสารกับประชาชนในฐานะผู้รับบริการผ่าน “สายด่วน 1330” ไม่เพียงแต่เป็นช่องทางการให้ข้อมูลและตอบคำถามทั่วไปด้านหลักประกันสุขภาพ การตรวจสิทธิการรักษาพยาบาล และการชี้แจงสิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางการร้องเรียน ร้องทุกข์ ปัญหาและอุปสรรคการเข้ารับบริการยังหน่วยบริการรักษาพยาบาลต่างๆ ทำให้ สปสช.สามารถเข้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นช่องทาง “การคุ้มครองสิทธิ์การเข้ารับบริการ”
       
นพ.วินัย กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมา สปสช.จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินงาน สายด่วน 1330 อย่างมาก เพื่อให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็ว ปัจจุบันได้เปิดให้บริการถึง 60 คู่สาย บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังจากการรับเรื่องที่ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาผ่านสายด่วน 1330 ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสามารถแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันทำการถึงร้อยละ 97 ส่งผลให้ความพึงพอใจของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากบริการสายด่วน 1330 นี้ ที่เป็นการจัดกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์แบบครบวงจรนี้ ส่งผลในปี 2556 สปสช.จึงได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2556 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นอกจากนี้ยังได้รับการประเมินจาก “โครงการพัฒนารูปแบบกลไกการรับเรื่องเรียนและเยียวยาผู้บริโภคในอาเซียน” ของคณะกรรมการอาเซียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (ASEAN Committee on consumer Protection : ACCP) ที่ได้เข้าประเมินการคุ้มครองสิทธิของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่ากระบวนการรับเรื่องร้องเรียนของ สปสช.ในปัจจุบันดีในระดับต้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน

“แม้ว่าการดำเนินงานสายด่วน 1330 ขณะนี้จะอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่การเดินหน้าพัฒนาและขยายงานด้านคุ้มครองสิทธิ์ประชาชนของ สปสช.ยังคงต้องเดินหน้าต่อเนื่อง ซึ่งโครงการผลิตและติดป้ายโฆษณาท้ายรถโดยสารประจำทางปรับอากาศเพื่อสร้างการรับรู้นโยบายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่านสายด่วน สปสช.1330 จะเป็นส่วนสำคัญทำให้ประชาชนรับทราบช่องทางการสื่อสารกับทาง สปสช.มากขึ้น ที่จะนำไปสู่การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว