ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันสถานพยาบาลในสังกัด คงให้การดูแลรักษากลุ่มประชาชนไร้สิทธิกว่า 2 แสนคน ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือโครงการ 30 บาท ตามหลักมนุษยธรรมเหมือนเดิม เคยใช้สิทธิที่ใด ก็ให้ใช้ที่เดิม

ตามที่มีข่าวประชาชนกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ได้ถูกปลดสิทธิจากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และอ้างว่าได้แจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าฐานข้อมูลบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิแล้ว ทำให้เกิดปัญหากับกลุ่มคนเหล่านี้ตรวจสอบไม่พบสิทธิ และได้รับความเดือดร้อน จากการใช้บริการและโรงพยาบาลไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้นั้น

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว วันนี้ (6 มีนาคม 2557)นายแพทย์ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการสื่อสาร ที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ .ไม่ได้แจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีปัญหาสถานะและสิทธิจำนวน 202,139 คน ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการ 30 บาทได้  กระทรวงสาธารณสุขได้ให้หน่วยบริการในสังกัด  ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามพื้นที่ชายขอบ หรือพื้นที่สูง ให้บริการโดยไม่มีเงื่อนไข โดยถือเป็นหน้าที่และจรรยาบรรณวิชาชีพ ทุกฝ่ายไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใด 

นายแพทย์ทรงยศกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขในฐานะดูแลฐานทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ขณะนี้ได้เร่งรัดให้จังหวัด ตรวจสอบจำนวนผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการ 30 บาท โดยให้แยกออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มบุคคลที่เข้าหลักเกณฑ์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ หน่วยบริการสามารถดำเนินการลงทะเบียนบุคคลและสิทธิ และสามารถรับบริการได้ทันที  2.กลุ่มบุคคลที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เช่น เป็นคนต่างด้าว หรือบุคคลที่มีสัญชาติอื่นๆ เช่น จีน อังกฤษ เนปาล ฯลฯ กระทรวงสาธารณสุขได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการกองทุนนี้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติ ให้ประสานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เกี่ยวกับเงินเหมาจ่ายรายหัวที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับงบประมาณไปแล้ว โดยขอให้ให้หน่วยบริการให้การรักษาพยาบาลไปตามปกติ โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข จะจ่ายชดเชยตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นในภายหลัง