ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"รมว.สธ." FB เสียใจ บุคลากรการแพทย์ติดป้ายแสดงความเห็นการเมืองในโรงพยาบาล ยันพร้อมปฏิบัติงานร่วมกับทุกคน แต่เรียกร้องทุกฝ่ายทำงาน ไม่กระทบให้บริการประชาชน

วันที่ 8 มี.ค. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ P.Sintavanarong ยืนยันพร้อมทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกฝ่าย โดยไม่มีเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้องบุคลาการทางการแพทย์ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่กระทบการบริการประชาชน เพื่อศักดิ์ศรีของแพทย์ทุกคน

เนื้อหาดังต่อไปนี้

"ตามที่มีการแสดงข้อคิดเห็นทางการเมืองของกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในรูปแบบต่างๆ ทั้งแถลงการณ์ การรวบรวมรายชื่อ หรือชักชวนเข้าร่วมการประท้วง และการแขวนป้ายแสดงข้อคิดเห็นต่างๆ ในหรือบริเวณโรงพยาบาล และสถานพยาบาลต่างๆ ซึ่งทำให้มีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอีกกลุ่มหนึ่ง ตลอดจนมีประชาชนที่เป็นแนวร่วมด้านงานสาธารณสุข เช่น กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) หรือแม้กระทั่งสาธารณชน นักวิชาการทั่วไปที่อยู่นอกวงสาธารณสุข ออกมาคัดค้านการกระทำดังกล่าว

ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เรียนจบแพทยศาสตร์ และเคยประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ รู้สึกไม่สบายใจ และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะโรงพยาบาลและสถานพยาบาลนั้น เป็นสถานที่ให้บริการประชาชน ดูแลรักษาความเจ็บไข้ เป็นที่พึ่งพาของประชาชนทุกคน บุคลากรสาธารณสุขทุกคนย่อมมีหน้าที่และจิตสำนึกที่ต้องดูแลมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา หรือความคิดเห็นที่แตกต่าง ในขณะที่การแสดงออกทางการเมืองที่แตกต่าง ขัดแย้งจนอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ จะทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อประชาชนผู้มารับการรักษา และความไม่ไว้วางใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่

ผมต้องการเห็นการรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณของวิชาชีพ ต้องการเห็นการให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ดังนั้น ผมจึงอยากขอให้ทุกคนเข้าใจว่า การแสดงออกถึงจุดยืนที่แตกต่างนั้นเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นความสวยงามยิ่งหากการแสดงนั้น เคารพซึ่งสิทธิและเสรีภาพ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตามหลักความมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่า เทียมกัน และตามวิถีทางที่ชอบที่ควร มีมนุษยธรรมและเมตตาธรรม ไม่กระทบต่อการให้บริการต่อประชาชนทุกคน ผมพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อให้สิ่งที่ผมกล่าวนั้นเป็นจริง และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขทุกคนครับ