ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หมอเผยคนมักเข้าใจผิดเด็กป่วย ทั้งทารกคลอดก่อนกำหนด ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจกินนมแม่ไม่ได้ ยันยิ่งต้องให้กินนมแม่เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อ หลังพบเด็กป่วยไม่ได้กินนมแม่มากกว่า 50% แนะให้กินนมแม่ถึง 2 ขวบป้องกันสารพัดโรค กรมการแพทย์ชี้เด็กป่วยได้รับนมแม่ไม่ถึงร้อยละ  50  ระบุตั้งคลินิกนมแม่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี  ให้ความรู้แก่แม่และครอบครัวที่มารับบริการหลายรูปแบบ  แนะแม่ให้นมลูกถึง 2 ขวบ เป็นภูมิป้องกันสารพัดโรค

วันนี้  (12  มีนาคม  2557) ที่โรงแรมเซนจูรี่  กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา  อธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาตินมแม่ในเด็กป่วย  ครั้งที่  2  ซึ่งจัดโดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี  ร่วมกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย  ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย  สภาการพยาบาล และมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย  ว่า  โดยทั่วไปทารกป่วยยังมีอัตราการได้นมแม่ถึงอายุ  6 เดือนในอัตราที่ต่ำ  สถิติของคลินิกนมแม่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี  พบว่า  เด็กป่วยได้รับนมแม่ถึงอายุ  6 เดือน คิดเป็นร้อยละ 43.14  หมายถึง  มีเด็กป่วยอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่สามารถกินนมแม่ใน  6  เดือนแรกได้  องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน  และหลัง 6 เดือนให้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมตามวัยจนอายุ ครบ 2 ปี หรือมากกว่านั้น  ยิ่งเด็กป่วย ยิ่งมีประโยชน์  กรมการแพทย์โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีบทบาทและหน้าที่ในการดูแลทารกที่เจ็บป่วยในระดับตติยภูมิหรือสูงกว่า  จึงมีการสนับสนุนให้ทารกหรือเด็กเล็กที่เจ็บป่วยได้รับนมแม่ เนื่องจากน้ำนมแม่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ยิ่งป่วย หรือคลอดก่อนกำหนด หรือเด็กที่เจ็บป่วย ยิ่งมีประโยชน์ โดยการพัฒนาวิธีการให้นมแม่ในทารกที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดโรคทางสมอง โรคทางพันธุกรรม รวมทั้งในแม่ที่มีปัญหาสุขภาพ  เช่น  แม่ป่วยหรือแม่ต้องได้รับการผ่าตัด การดูแลส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับเด็กป่วยและเด็กคลอดก่อนกำหนด จะทำให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด และเมื่อแม่จะต้องพาลูกกลับบ้านจะช่วยให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ต่อเนื่องตามเป้าหมาย                              

 แพทย์หญิงศิราภรณ์  สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี  กล่าวเพิ่มเติมว่า มักเข้าใจผิดว่า เด็กป่วย  อาทิ ทารกคลอดก่อนกำหนด เด็กที่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เด็กที่ต้องผ่าตัดรักษา จะไม่สามารถกินนมแม่ได้ แต่ในความเป็นจริงสามารถให้ทารกกินนมแม่ได้ อาทิ รับจากเต้านม หรือทางสายยางสำหรับให้อาหาร หรือป้อนด้วยช้อน หรือแก้ว เมื่อทารกพร้อมจึงค่อยให้ดูดจากเต้ามารดา ซึ่งน้ำนมแม่ใน 2-3 วันแรกหลังคลอดมีความสำคัญและคุณค่ามากกับทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทารกที่ป่วย จะช่วยให้เกิดภูมิต้านทานโรคเป็นทั้งยาและภูมิคุ้มกัน  มีผลต่อพัฒนาการของสมอง จอประสาทตา การย่อย การดูดซึมสารอาหาร ลดการเกิดอักเสบของลำไส้ ลดการติดเชื้อในเด็กป่วย ทำให้เด็กป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วกว่าเด็กป่วยที่ไม่ได้รับนมแม่ นอกจากนี้ มีการให้ความรู้แก่แม่และครอบครัว เช่น  การเสวนานมแม่ การให้ความรู้ ขณะฝึกปฏิบัติ การให้ความรู้บุคลากรที่ปฏิบัติงาน การสร้างแม่อาสาในกลุ่มเด็กป่วยกลุ่มต่างๆ เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกกลุ่มอาการดาวน์ โรคหัวใจ กลุ่มแม่บีบน้ำนม พร้อมอุปกรณ์การสอน เช่น ตุ๊กตา  เต้านมโมเดล โมเดลกระเพาะอาหารทารกแรกเกิด   ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีตระหนักถึงความสำคัญของการให้นมแม่ทั้งในเด็กป่วยและเด็กปกติจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ทารกได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง  อาทิ  ให้แม่อยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมง ฝึกความพร้อมก่อนกลับบ้าน การจัดตั้งคลินิกนมแม่และให้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์สายด่วน 1415 เพื่อให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาสุขภาพทารกแรกเกิด