ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยโพสต์ - สาธารณสุข * แพทย์เตือนกินไข่แมงดาทะเลเสี่ยงตายสูง เผย 2 อาทิตย์ดับแล้ว 1 ราย นอน รพ.อีก 8 ราย

ที่ศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาธิบดี เมื่อเวลา 13.00 น. ศ.นพ.วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบมีรายงานผู้ป่วยจากพิษของแมงดาทะเลจำนวน 8 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่อาศัยรอบรอบทะเลอ่าวไทย เช่น ที่จังหวัดตราด จันทบุรี สมุทรสาคร และพื้นที่ภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี และปัตตานี ซึ่งในรายที่เสียชีวิตนั้นพบว่ามีภาวะต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติเข้ามาร่วมด้วย ทั้งนี้ แม้ตัวเลขผู้ป่วยในปี 2557 จะไม่สูง แต่เมื่อเทียบการป่วยจากพิษของแมงดาทะเลตลอดทั้งปี 2556 อยู่ที่ 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย ปี 2555 ป่วย 21 ราย และปี 2554 ป่วย 15 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง โดยช่วงของการพบผู้ป่วยคือ ก.พ.-มี.ค. ดังนั้นจึงต้องออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องการรับประทานไข่แมงดาทะเล

ทั้งนี้ แมงดาทะเลในประเทศไทยจะมีอยู่ 2 ชนิดคือ 1.แมงดาถ้วย จะมีลักษณะตัวเล็ก และ 2.แมงดาจาน มีลักษณะตัวใหญ่กว่า เป็นชนิดแมงดาชนิดเดียวที่สามารถรับประทานได้ ส่วนแมงดาถ้วยไม่สามารถรับประทานได้เนื่องจากมีสารเตโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งไม่สามารถทำลายพิษได้ด้วยความร้อน หากรับประทานเข้าไปภายใน 15-30 นาที จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่น่าสังเกตคือเกิดอาการชาตามปลายนิ้ว รอบปาก ต่อมาจะเกิดอาการชาที่ปลายมือ ปลายเท้า อ่อนแรง ขยับตัวไม่ได้ การหายใจลำบาก และทำให้เสียชีวิตในที่สุด โดยอาการทั้งหมดจะเกิดขึ้นเร็วมาประมาณ 1 ชั่วโมง บางรายหากได้รับพิษเข้าไปจำนวนมากจะส่งผลต่อระบบการทำงานของหัวใจ ดังนั้นคนที่รับประทานไข่แมงดาทะเลเข้าไปแล้ว หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบบอกคนใกล้ตัวให้รีบพาส่งโรงพยาบาลเพื่อการรักษาที่ทันท่วงที โดยการรักษาจะใช้เพียงเครื่องช่วยหายใจเพียงอย่างเดียว รักษาประมาณ 2-3 วัน พิษก็จะหายไปเอง

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์  วันที่ 13 มีนาคม 2557