ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หมอชาญวิทย์ ประธานประชุมคณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการวิจัยบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ ที่ประชุมมีมติให้ตั้งที่ปรึกษาคุมโครงการวิจัยและพัฒนาระบบบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ที่สวรส.รับดำเนินการ เพื่อกำกับและควบคุมงานพัฒนา มีบทบาทตรวจงาน กำกับดูแลการออกแบบงานภาพรวม การบริหารความเสี่ยงโครงการวิจัยฯ และสนับสนุนงานเป็นที่ปรึกษาด้านต่างๆ 

จากปัญหาที่ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของปัจจุบันและของอนาคต จึงมีความจำเป็นในการเดินหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ ที่ทางสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อพัฒนาระบบงานใหม่ที่สนับสนุนข้อมูลด้านยาและเวชภัณฑ์แบบ Real-time ของหน่วยบริการในกำกับของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์การวางแผนจัดการยาและเวชภัณฑ์เชิงรุกในอนาคตนั้น

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2557 สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) จัดประชุมคณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการวิจัยและพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ ครั้งที่ 4/2557 โดยมี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ อาทิ ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผอ.สวรส. นพ.อรรถสิทธิ์ กาญจนสินิทธิ์ ภก.ปานศักดิ์ ปราโมกข์ชน ดร.พิจิตรพงศ์ สุนทรพิพิธ ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นางนันทวรรณ ตั้งชัยสุข ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สวรส. กรรมการและเลขานุการฯ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสุปัญญา ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ

การประชุมในครั้งนี้ ดร.พรชัย ชันยากร จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยผู้รับผิดชอบจัดทำร่างข้อกำหนดทางเทคนิค โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานโดยการจัดตั้งที่ปรึกษาเพื่อกำกับและควบคุมงานพัฒนาระบบบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งมองว่า จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถในการควบคุมกำกับการดำเนินงาน  การตรวจสอบข้อมูล อุปกรณ์ และให้การสนับสนุนเชิงเทคนิคกับคณะวิจัยในโครงการฯ ได้ เพื่อทำให้การบริหารโครงการที่มีลักษณะซับซ้อนสามารถดำเนินการได้ตามแผนและวัตถุประสงค์ โดยระบุสาระสำคัญถึงขอบเขตงาน เช่น การมีบทบาทในการตรวจงาน กำกับการดูแลการออกแบบงานในภาพรวม การบริหารความเสี่ยงของโครงการวิจัยฯ พร้อมการสนับสนุนงานเป็นที่ปรึกษาด้านต่างๆ 

ทั้งนี้ รูปแบบการดำเนินงานของที่ปรึกษานั้น จะเป็นผู้รายงานผลการดำเนินงานของคณะทำงานที่ปรึกษาฯ และของคณะผู้วิจัยในโครงการฯ ให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการในระดับกระทรวง เพื่อหาข้อยุติในส่วนความเห็นที่แตกต่างในระหว่างการดำเนินงาน หรือกรณีที่ต้องมีการสั่งการทางราชการตามลำดับขั้นตอน หรือในกรณีที่ต้องมีการกำหนดนโยบายที่มีผลกระทบกับหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งรายงานผลดำเนินงานให้กับคณะกรรมการตรวจรับงาน เป็นต้น

ด้าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางฯ กล่าวว่า บทบาทของที่ปรึกษาเพื่อกำกับและควบคุมงานพัฒนาระบบบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ ที่เสนอในการจัดตั้งมานั้น จะต้องมีการพัฒนาบทบาทการทำงานให้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงมีการตีกรอบว่าจำนวนที่ปรึกษาควรมีปริมาณมากน้อยเพียงใด มีรูปร่างหน้าตาของโครงสร้างเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เสนอให้คณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการฯ ได้ช่วยดูความเหมาะสม โดยจะมีการประชุมติดตามผลการดำเนินงานเป็นระยะๆ เพื่อให้มีความชัดเจนและเดินไปในทิศทางเดียวกันกับการบริหารจัดการโครงการในภาพใหญ่ และร่างข้อกำหนดทางเทคนิคในการดำเนินโครงการวิจัยฯ ที่ได้จัดทำขึ้นไว้แล้ว               

สามารถติดตาม/ดาวน์โหลดเอกสารเรื่องการบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ ตามแผนงานวิจัยและประเมินผลนโยบายสุขภาพ เพิ่มเติมได้ทาง http://www.hsri.or.th/plans/130