ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยรัฐ - สาธารณสุขคุมเข้มไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 หลัง พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย ทั้งมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เร่งใช้ 4 มาตรการเข้มป้องกัน-รักษา พร้อมตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแพทย์ผู้รักษา ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตที่ จ.นครศรีธรรมราชไม่ใช่ตายเพราะไข้หวัดนก

คนไทยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กันเพียบ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ขณะนี้กลายเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและพบว่ามีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น เนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายทางระบบทางเดินหายใจ ประชาชนยังขาดการป้องกันตนเอง จากการติดตามไม่พบเชื้อกลายพันธุ์ โดยในปี 2557 ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. พบผู้ป่วยทั่วประเทศ 16,065 ราย เสียชีวิต 9 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานและผู้สูงอายุ ขณะที่ตลอดปี 2556 พบผู้ป่วย 43,791 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

นพ.ณรงค์กล่าวอีกว่า จึงสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศคุมเข้ม 4 มาตรการป้องกันและรักษา ได้แก่ 1.รณรงค์ประชาชนล้างมือบ่อยๆ ซึ่งให้ผลดีมากป้องกันได้ทั้งไข้หวัดใหญ่และท้องเสีย 2.เมื่อป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัย 3.ให้หยุดงานหรือหยุดเรียนเมื่อป่วย และ 4.ให้แพทย์ให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ตามแนวทางการรักษาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื้อยังไม่มีการดื้อยา ทั้งนี้ โรงพยาบาลในสังกัด สธ.ทุกแห่งได้สำรองยาไว้อย่างเพียงพอและให้องค์การเภสัชกรรมผลิตยาดังกล่าวเพิ่มแล้วจำนวน 3 ล้าน 5 แสนแคปซูลในสัปดาห์หน้า

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังกำชับให้โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากผิดปกตินั้น ให้จัดจุดตรวจให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ แยกผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจออกจากผู้ป่วยอื่นและแจกหน้ากากอนามัยทุกราย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่ผู้ป่วยอื่น พร้อมทั้งให้กรมการแพทย์ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและปอด จาก สธ.และมหาวิทยาลัยเพื่อให้คำปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษากรณีที่พบผู้ป่วยมีอาการหนัก ทั้งนี้หากประชาชนที่มีอาการป่วย ได้แก่ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ขอให้นึกถึงไข้หวัดใหญ่ และถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันขอให้รีบพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจอุดตัน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ

ส่วนกรณีที่มีข่าวพบผู้ป่วยไข้หวัดติดเชื้อเอช 5 เอ็น 1 (H5N1) หรือไข้หวัดนกเสียชีวิต 2 รายที่ จ.นครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชรับผู้ป่วยไข้หวัดไว้รักษาตัวในโรงพยาบาล 12 รายนั้น นพ.ณรงค์ระบุว่า จากการตรวจสอบผลการตรวจวิเคราะห์เชื้ออย่างละเอียดจากห้องปฏิบัติการพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายที่ จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ชนิด เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเป็นไข้หวัดประจำฤดูกาลไม่ใช่ไข้หวัดนกแต่อย่างใด จากการประสานเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ ได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พบว่าขณะนี้โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดใหญ่ชนิดเอช 1 เอ็น 1 รักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 4 รายเท่านั้น โดย 2 รายอาการหายดีกลับบ้านแล้ว

ที่มา: http://www.thairath.co.th