ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - เจ้าของคลินิกครวญเสียใจยัน "น้องมุก" ไม่ได้ตายเพราะขูดหินปูน เผย มาหาหมอด้วยอาการเลือดออกในช่องปากแต่พบหินปูนเยอะเลยขูดออกให้ตามความสมัครใจ จนมารู้ทีหลังว่ามีหลายโรครุม ทั้งเกล็ดเลือดต่ำ เลือดออกในสมองและช่องท้องไม่หยุด ขณะที่ญาติไม่ติดใจ "น้องมุก" ขูดหินปูนเสียชีวิตเหตุผู้ตายสั่งเสียไว้ไม่ให้เอาเรื่องใคร ขณะที่ "ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข" ยัน เจ้าสาวเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับขูดหินปูน สาเหตุจากโรคเกล็ดเลือดต่ำ

จากเหตุสุดสลด น.ส.กิ่งหยก คงเสมา หรือน้องมุก ว่าที่เจ้าสาววัย 20 ปี ที่เสียชีวิตในวันที่จะเข้าพิธีวิวาห์ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้มีอาการเลือดออกในปากไม่หยุดหลังจากไปรับบริการขูดหินปูนที่คลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่แพทย์รพ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่าไม่น่าเกี่ยว กับการขูดหินปูน แต่เป็นเพราะผู้ป่วยมีอาการเกล็ดเลือดต่ำเลือดออกในสมองและช่องท้องไม่หยุด แต่ไม่มีใครไปชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 เม.ย. ที่บ้านของ น.ส.กิ่งหยก ผู้ตาย บรรดาญาติ ๆ ได้ช่วยกันเก็บข้าวของที่ยืมมาจากวัดกล้วยที่เตรียมไว้งานแต่งนำไปคืนทางวัด ขณะเดียวกัน นายชนาธิป ไชยรัตนะ ผู้อำนวยการบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเงินสงเคราะห์ และเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท มามอบให้กับมารดาน.ส.กิ่งหยก ขณะที่นางพเยาว์ คงเสมา อายุ 56 ปี ผู้เป็นย่ายังร่ำไห้ตลอดเวลา แต่ยืนยันว่าทางญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจเรื่องการรักษาพยาบาลหรือเรื่องการขูดหินปูน ที่สำคัญผู้ตายได้สั่งเสียเอาไว้ก่อนตายว่าไม่ให้เอาเรื่องอะไรกับใครขณะที่ชาวบ้านต่างพากันเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะน้องมุกเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว การเสียชีวิตของน้องมุกจึงทำให้ไม่มีใครดูแลย่า และช่วยแม่เลี้ยงน้องอีก 2 คน

ด้านเจ้าของคลินิกที่ทำฟันน้องมุกเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเสียใจที่น้องมุกเสียชีวิต แต่ยืนยันว่าน้องมุกไม่ได้เสียชีวิตเพราะการขูดหินปูน วันเกิดเหตุน้องมุกมาหาหมอขอให้ช่วยดูเรื่องเลือดออกในช่องปาก เมื่อตรวจเบื้องต้นพบว่ามีหินปูนจำนวนมากจึงสอบถามความสมัครใจ และน้องมุกตกลงให้ขูดหินปูนออก ยืนยันว่าหลังจากขูดหินปูนก็จะมีเลือดออกเป็นปกติแต่ไม่ทราบว่าน้องเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำหรือไม่ เพราะน้องบอกว่าไม่เคยเป็นอะไรจึงทำการขูดหินปูนตามปกติ ทราบว่าหลังจากนั้นน้องมุกยังมีเลือดออกอีกแต่น้องมุกก็ไม่มาพบแพทย์ทางคลินิกทราบว่าน้องมุกคงยุ่งเรื่องเตรียมแต่งงานจนกระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย ผอ. สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย เปิดเผยถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.กิ่งหยก ซึ่งญาติเชื่อว่ามาจากสาเหตุของการไปขูดหินปูนที่คลินิกแห่งหนึ่งว่า กรณีดังกล่าวการเสียชีวิตไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่ผู้ตายได้ไปขูดหินปูนจากสถานทันตกรรมแต่อย่างใด ยืนยันว่าการขูดหินปูนนั้น ไม่ได้มีอันตรายจนทำให้เสียชีวิตได้ซึ่งในบางรายที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเม็ดเลือด เกล็ดเลือดต่ำ อาจมีเลือดไหลไม่หยุดหลังจากการทำฟันแต่เมื่อพบแพทย์ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง 2-3 วัน อาการก็กลับมาปกติแต่ในกรณีของ น.ส.กิ่งหยก ที่มีโรคประจำตัวคือ โรคเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งปกติคนเรามีเกล็ดเลือดประมาณ 1.5 แสน แต่ในรายนี้ มีเกล็ดเลือดเหลืออยู่เพียง 2 หมื่น จึงถือเป็นความผิดปกติรุนแรง อีกทั้งยังมีเลือดออกในส่วนช่องท้อง กระเพาะอาหาร และสมองมีเลือดออกไม่หยุดจนทำให้เสียชีวิตในที่สุด

"อยากทำความเข้าใจกับประชาชนที่หวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าสถานทันตกรรมว่า หากคนปกติเข้ารับการขูดหินปูนจะไม่เกิดปัญหาแต่หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเม็ดเลือด ที่ได้กล่าวไปก็ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้า รับบริการ เพราะคนที่เป็นโรคนี้หากเกิดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เลือดก็ไหลไม่หยุดแล้ว คนที่ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำก็ขอให้สังเกตจากอุจจาระว่ามีสีดำหรือไม่ หรือตรวจด้วยการเจาะเลือด และวิธีอื่น ๆ หากพบว่ามีความผิดปกติขอให้รีบพบแพทย์ทันที" ทพ.สุธา กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 3 เมษายน 2557

เรื่องที่เกี่ยวข้อง