ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ไม่รับทราบ หนังสือ ขอยกเลิกระเบียบการจ่ายเงินบัญชี 6 ของปลัด สธ. เหตุ ส่งเข้าที่ประชุมบอร์ดผิดวิธี หมอประดิษฐจี้กลับไปทำมาให้ใหม่ให้ถูกขั้นตอน ชี้ตามระเบียบต้องผ่านรมว.สธ.ก่อน จึงจะเข้าสู่บอร์ดสปสช.ได้

จากกรณีที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  (สธ.) ได้ลงนามในหนังสือเลขที่สธ. 0209.01/301เข้าที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2557เพื่อขอให้มีการยกเลิกระเบียบการจัดสรรเงินผ่านบัญชี 6 ยกเลิกการจ่ายค่าตอบแทนรายบุคคลกรณีการล้างไตหรือค่าตอบแทนอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน และขอให้มีการระงับการจัดซื้อจัดจ้างงบค่าเสื่อมในประเด็นที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นทักท้วง นั้น

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. เปิดเผยว่า  ที่ประชุมไม่ได้รับหนังสือดังกล่าวมาพิจารณาเนื่องจาก นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รักษาการ รมว. สธ.เห็นว่าการเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดนั้นผิดระเบียบขั้นตอนโดยอยู่ดี ๆก็เสนอเข้ามา แต่ตามหลักแล้วจะต้องนำมาเสนอให้กับรมว.สธ.เป็นผู้พิจารณานำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดดังนั้นจึงขอให้นำเสนอมาอีกครั้งตามขั้นตอน  อย่างไรก็ตามต่อประเด็นที่ สตง.ทักท้วงมานั้นเป็นเรื่องปกติที่มีการตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของ สปสช.ทุกปี เป็นการทักท้วงมาที่เจ้าของเงินโดยตรงแต่ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบไปที่สปสช.จังหวัด ในการใช้งบประมาณย้อนหลังถึงปี2555 และได้มีข้อทักท้วงการใช้งบบัญชี 6 ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ซึ่งเรื่องนี้ทาง สปสช.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีรับผิดทางละเมิดร่วมกับสธ.เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามข้อทักท้วงหรือไม่ก่อนจะทำการสรุปและชี้แจงไปยังสตง.ในภายหลัง ซึ่งตรงนี้คณะกรรมการตรวจสอบสามารถมีความเห็นที่เหมือนหรือแตกต่างกับสตง.ได้แต่การตั้งคณะกรรมการยังไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่ได้เริ่มดำเนินตรวจสอบข้อเท็จจริง

“ความผิดฐานละเมิดนี้ต้องดูที่เจตนาว่าการใช้เงินเป็นอย่างไร เราก็ต้องตรวจสอบและชี้แจงไปยัง สตง.ซึ่งคณะกรรมการสามารถมีความเห็นที่แตกต่างไปจากสตง.ได้ อย่าง เช่น ที่สตง.บอกว่ายอมรับไม่ได้ที่นำเงินงบค่าเสื่อมไปสร้างบ้านพักแพทย์ส่วนตัวแล้วเห็นว่าการเสียสภาพของบ้านพักก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริการส่งเสริมป้องกันโรคได้แต่เขาบอกว่าเงินต้องเอาไปใช้กับคนไข้โดยตรงส่วนการจ่ายค่าตอบแทนรายบุคคลในมุมมองของสปสช.เห็นว่าเป็นแรงจูงใจให้บุลากรทำงานมากขึ้นทำให้คนไข้เข้าถึงการบริการมากขึ้นในช่วงที่มีการขยายบริการ ซึ่งจะเห็นว่าช่วยลดคิวการรักษาได้มากเช่น การผ่าตัดหัวใจ” นพ.วินัยกล่าวและว่า การดำเนินการเช่นนี้สปสช.ไม่ได้ทำเฉพาะกับโรงพยาบาลในสังกัดสธ.เท่านั้นแต่ยังทำร่วมกับโรงพยาบาลทหาร โรงเรียนแพทย์ด้วย     

เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเรียกร้องของ สธ.ที่ขอให้มีการแก้ไขระเบียบการจ่ายเงินจากบัญชี6ไปเป็นแบบเงินบำรุงแทนนั้นนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่สำนักงานจะทำได้กติกาตรงนี้จะต้องทำโดยคณะกรรมการ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงระเบียบการจ่ายเงินจะต้องนำเสนอคณะกรรมการเพราะฉะนั้นหากจะหารือร่วมกันในเรื่องนี้ก็คงสามรถทำได้แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาอยู่ดี