ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ASTVผู้จัดการรายวัน -กพย.ปูดใช้ยาเบาหวาน "ไพโอกลิตาโซน" เสี่ยงมะเร็ง หลังสหรัฐฯปรับบริษัทยาญี่ปุ่นฐานปกปิดความเสี่ยงจากการใช้ยา จี้ถามมาตรการเฝ้าระวัง อย. ด้านรองเลขาธิการ อย.ระบุสหรัฐฯยังไม่ถอนทะเบียน ยา ส่วนไทยยังไม่มีปัญหาจากการใช้ยาตัวนี้ เผยยกระดับเป็นยาควบคุมพิเศษ มีคำเตือนพร้อมอาจเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

วานนี้ (21 เม.ย.) ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา มีข่าวว่า บริษัท ทาเคดา ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยาของญี่ปุ่น ถูกคณะลูกขุน ในรัฐลุยเซียนาสหรัฐอเมริกาสั่งปรับเป็นเงินกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในค่าเสียหายเชิง ลงโทษฐานมีพฤติกรรมปกปิดความเสี่ยงในการ เกิดมะเร็งจากการใช้ยากลุ่มเบาหวาน หรือยาชื่อ สามัญ คือ "ไพโอกลิตาโซน(Pioglitazone)" ทำให้ต้องถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา(อย.) ของไทยว่า มีมาตรการอะไร ในการควบคุมการใช้ยาชนิดนี้ในไทยหรือไม่ เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานในไทยมีจำนวนมาก

"ประเทศไทยควรมีการประชุมและออกมาตรการเฝ้าระวังการใช้ยา รวมทั้งกรณียาตัวไหน ที่มีปัญหาก็ควรมีการตั้งทีมงานมาเฝ้าระวังและ ศึกษาว่า ต้องมีการถอนทะเบียนยาตัวดังกล่าวหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบ อย.ยังไม่มีการประชุมคณะอนุกรรมการ ทบทวนตำรับยาแผนปัจจุบันเลยแม้แต่ครั้งเดียว" ผู้จัดการ กพย. กล่าว

ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังไม่ถอนการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว ส่วนไทยมี 2 บริษัทที่ขึ้นทะเบียนยาดังกล่าวกับ อย. โดยจากการติดตามยังไม่พบปัญหาใดๆ กับผู้ป่วยที่ใช้ยาตัวนี้ แต่ อย.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการติดตามมาตลอด ซึ่งปัจจุบันได้ยกระดับเป็นยาไพโอ กลิตาโซน เป็นยาควบคุมพิเศษ โดยต้องมีใบสั่งแพทย์เมื่อซื้อยา ซึ่งได้ยกระดับไปตั้งแต่เมื่อปี 2555 และมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทาง การใน มี.ค. 2556 พร้อมกันนี้ยังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องยาที่ต้องแจ้งคำเตือนการใช้ยาไว้ในฉลากและที่เอกสารกำกับยา อาทิ ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่มีหัวใจล้มเหลวในระดับที่รุนแรง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และต้องมีคำเตือนห้ามใช้ยานี้นานเกิน 1-2 ปี เพราะอาจเสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่กำลังเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะด้วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน  วันที่ 22 เมษายน 2557