ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศ.นพ.ประกิต  วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  เปิดเผยผลการศึกษาของโกลบอล  ฮาร์ท  ที่ทำการวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลกหรือที่เรียกว่าภาระโรคของโลก (จีบีดี)  พบว่าโรคลมปัจจุบันที่เกิดจากเส้นเลือดสมองตีบเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต 3 ล้านคนในปี พ.ศ.2553  จากจำนวนผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมอง 11.5  ล้านคนในปีเดียวกัน  โดยร้อยละ 57  ของคนที่ป่วยด้วยโรคนี้อยู่ในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง  และร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน  อินเดีย และรัสเซีย  โดยการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของโรคเส้นเลือดสมองตีบร้อยละ 29  ในประเทศจีน ร้อยละ 12 ในรัสเซีย และร้อยละ 11 ในอินเดีย  ที่สำคัญคือสถิติโรคเส้นเลือดสมองตีบมีแนวโน้มลดลงในสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น  ที่มีอัตราการสูบบุหรี่ลดลง  แต่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง  จากการที่สถิติการสูบบุหรี่ของประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับสูงและประชากรที่สูบบุหรี่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น  ซึ่งหากลดอัตราการสูบบุหรี่ลงได้แม้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์  จะสามารถลดคนที่จะป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ได้เป็นจำนวนมาก

ศ.นพ.ประกิต เปิดเผยต่อไปว่า  โรคเส้นเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสอง ของคนไทย โดยในปี พ.ศ.2552 มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 50,829 คน ซึ่งสถิติทั่วโลกพบว่าร้อยละ 70-85 ของโรคเส้นเลือดสมองเป็นประเภทเส้นเลือดสมองตีบ  ที่เหลือเป็นเส้นเลือดสมองแตก  ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดสมองได้แก่ความดันโลหิตสูงโดยเฉพาคนที่ควบคุมความดันไม่ดี  เบาหวาน  สูบบุหรี่  ไขมันในเลือดสูง และการขาดการออกกำลังกาย  ส่วนการดื่มสุราเป็นสาเหตุสำคัญของเส้นเลือดสมองแตก