ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมบัญชีกลางหารือโรงพยาบาลถกหวังคุมงบค่ารักษาพยาบาลปีนี้ไม่ให้เกิน 6 หมื่นล้านบาท หลัง 6 เดือนได้ตามเป้า พร้อมผ่อนปรนให้ใช้ยาต้นแบบได้หลังถูกต่อต้าน เดินหน้าขยายสิทธิรักษาพยาบาลทั้งค่าห้องและอวัยวะเทียม

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า สัปดาห์ที่ ผ่านมาได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารโรงพยาบาลกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ โดยแจ้งต่อที่ประชุมว่า ในงบประมาณปี 2557 ได้รับการจัดสรรค่ารักษาพยาบาลประมาณ 60,000 ล้านบาท สิ้นเดือนเมษายนเบิกจ่ายไปแล้ว  35,000 ล้านบาท ผ่านมาแล้วเกินครึ่งปีงบประมาณน่าจะเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย แต่ปัจจุบันต้นทุนการ รักษาพยาบาลปรับสูงขึ้น และต้องจ่ายงบเพิ่มหลายส่วน ดังนั้น งบประมาณปี 2558 จึงจำเป็นต้องขอจัดสรรเพิ่มขึ้นจากเดิมได้รับ 60,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาการตั้ง National Clearing House เป็นหน่วยงานกลางที่ตั้งขึ้นมาใหม่เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางมีภาระงบประมาณเพิ่มในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับข้าราชการ 3 ด้าน คือ 1.การเพิ่มอัตราค่าห้องพิเศษจากเดิม 600 บาท เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อคืน ค่าห้องสามัญจาก 300 บาท เพิ่มเป็น 400 บาท หลังจากไม่ได้ปรับมาหลาย 10 ปีแล้ว ต้องใช้งบประมาณ 1,300 ล้านบาท 2.การเพิ่มรายการอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการรักษาบำบัดโรค เช่น อนุญาตให้เบิกเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในสมองส่วนลึก สำหรับผู้ป่วยโรคพากินสัน การปรับเพิ่มอวัยวะเทียมบางประเภท ต้องใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท

3.การกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินกรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งประกาศไปแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายน  2557  ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากต้นสังกัดจากร้อยละ 30 เพิ่มเป็นร้อยละ 50 ตามที่จ่ายจริงหรือไม่เกิน  8,000 บาท โดยแยกจากค่าห้อง ค่าอวัยวะเทียม ต้องใช้เงินเพิ่มเติม 219 ล้านบาท จึงต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น 2,319 ล้านบาท และปีนี้กรมบัญชีกลางต้องให้สถานพยาบาลอีก 800 แห่ง ส่งข้อมูลเช่นเดียวกับ สถานพยาบาล 168 แห่ง ที่ดำเนินการไปแล้ว เพื่อนำบัญชียาหลัก และรหัสยามาตรฐานมาเป็นเครื่องมือในการส่งข้อมูล โดยขณะนี้ คณะทำงานต้องร่วมกันกำหนดราคายาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบัน เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างเหมาะสม