ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จำได้ว่าตั้งแต่ได้เข้ามาสู่วงการวิชาชีพเภสัชกร ปัญหายาชุดที่เราเฝ้าแก้ปัญหากันอยู่นั้นมันมีมานานมากกว่าอายุของเราซะอีก แต่ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องยาชุดมันไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย บางช่วงเวลายาชุดเหมือนมันจะหายไปตามกาลเวลา เพราะจากพูดคุยกับชาวบ้านบางคน ก็บอกว่า “ไม่มีนะคุณหมอ ไม่ซื้อกินหรอกมันอันตราย คนรุ่นใหม่เขาไม่กินยาชุดกันหรอก” หรือเขาเหล่านั้นที่เราคุยด้วยได้มีความรู้ในการดูแลตนเองมากกว่าคนอื่น หรืออาจจะบอกไปเพราะกลัวคุณเภสัชกรจะว่าเอา หรือมันจะแอบแฝงอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ คุณตาคุณยายที่ชอบบ่นว่าปวดแข้งปวดขานะแต่เขาไม่เคยเล่าให้เราฟัง

และแล้วข้อสันนิษฐานที่เราเคยคิดว่าคงมีแต่คนแก่เท่านั้นแหละมั้งที่กินยาชุด ก็ได้คำตอบว่าไม่ใช่ เมื่อเรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้น ในเช้าวันศุกร์สดใส ได้มีผู้ป่วยคนหนึ่งถือบัตรส่งต่อผู้ป่วยแพ้ยาที่ได้รับมาจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาที่ห้องจ่ายยาเพื่อพบเภสัชกร พี่พยาบาลจากรพ.สต.ส่งมาให้มาออกบัตรแพ้ยาให้เภสัชกรได้ซักประวัติและพูดคุยกับผู้ป่วยและได้เห็นร่องรอยที่เกิดจากการแพ้ยา ซึ่งผู้ป่วยเล่าว่าสองอาทิตย์ที่แล้ว มีอาการปวดขา แล้วเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนผู้หวังดีจึงได้นำยา 1 ชุดมาให้กิน เป็นยาชุดแก้ปวดได้มาจากที่ไหนไม่รู้ รู้แค่ว่ากินแล้วเคยหายปวดขา ในยานั้นมีอยู่ 4 เม็ด จำไม่ได้ว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง ตอนเช้ากินไป 4 เม็ด อาการปวดขาดีขึ้นนะ แต่ว่าตอนเย็นกลับมีอาการคันตามตัว มีผื่นขึ้นบริเวณหน้าท้อง หลังเท้า ปากเป็นแผลด้วย ซึ่งผู้ป่วยได้เปิดให้ดูตอนนี้ยังมีรอยดำๆอยู่เลย

หลังจากผื่นคันหายรู้สึกว่าปากยังมีแผลอยู่จึงได้ไปซื้อยากาโนมากินอีก พอกินไป 1 เม็ด เกิดอาการคัน แล้วก็ชาในปากอีก จึงไปรักษาที่รพสต.ได้ยาแก้แพ้แล้วอาการดีขึ้น  สอบถามถึงอาการเสร็จได้ยินผู้ป่วยบ่นว่า “ฉันไม่น่าไปซื้อมากินเลย ไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้” การออกบัตรแพ้ยาคงทำได้แค่บอกว่าแพ้ยากาโน ( tetracycline) ส่วนในยาชุดนั้นไม่สามารถระบุได้เลยว่าเป็นยาอะไร คงทำได้แค่ให้คำแนะนำกับผู้ป่วยว่าต่อไปถ้ามีอาการเจ็บป่วยให้มารับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือ รพ.สต.เพราะหมอจะมีประวัติการรักษา และยาที่เคยได้รับจากโรงพยาบาลผู้ป่วยไม่มีอาการแพ้ยา ส่วนในยาชุดนั้นไม่ทราบว่าเป็นยาอะไรบ้าง

นี่ไม่ใช่ผู้ป่วยคนแรกนะที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการแพ้ยาชุด เห็นมาหลายคนแล้ว บางคนแพ้ซ้ำอีกก็มี ร่องรอยอาการแพ้ยาที่เกิดขึ้นคงอีกสักพักกว่าจะหายไป แต่ร่องรอยในจิตใจของเภสัชกรนี่สิคงอีกนานกว่าจะจางหาย หรือเราให้ข้อมูลกับประชาชนในชุมชนของเราน้อยไป ร้านชำต่างๆที่เฝ้ารณรงค์คงมีแค่ไม่กี่ร้านที่ได้ทำตาม แล้วคนขายไปเอายามาจากไหนล่ะถ้าไม่ใช่จากร้านยา

ในขณะที่เภสัชกรกลุ่มหนึ่งกำลังรณรงค์เกี่ยวกับยาไม่ปลอดภัยในชุมชน ในอีกมุมหนึ่งของสังคมยังมีเภสัชกรที่ไม่เคยได้รับรู้ความทุกข์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากยาชุด ยาสเตียรอยด์  ยังมุ่งผลกำไรขายยาพวกนี้ให้ร้านค้าร้านชำทั่วไปเอามาจำหน่ายได้ และที่สำคัญที่สุดคือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ของเรา เมื่อไหร่จะปฏิรูประบบการควบคุมกำกับยาเพื่อความปลอดภัยของคนไทยซะทีน้า

ผู้เขียน : ภญ.กุสุมาลย์ บรรเทา รพ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่า : ทุกข์จากยาไม่เหมาะสมในชุมชน (2) : บทเรียนความกตัญญู

เรื่องเล่า : ทุกข์จากยาไม่เหมาะสมในชุมชน (จบ) : ยาโตจี๊ด เปลี่ยนชีวิต